โทษ ปรับทางอาญา ปรับทางปกครอง ปรับเป็นพินัย | สกล หาญสุทธิวารินทร์
โทษปรับ เป็นโทษทางอาญาสถานหนึ่งตามที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งอาจกำหนดเป็นโทษปรับสถานเดียว หรือเป็นโทษปรับที่ควบคู่ไปกับโทษจำคุกด้วย
นอกจากเป็นโทษตามที่กำหนดในประมวลกฎหมายอาญาแล้ว บรรดาพระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนดที่มีโทษทางอาญากำหนดไว้ ก็มีการกำหนดโทษปรับ อาจเป็นโทษปรับสถานเดียวหรือควบคู่กับโทษจำคุกก็ได้
คดีอาญาที่มีโทษปรับ สถานเดียวคดีเป็นอันเลิกกัน
เมื่อผู้ต้องหายอมเสียค่าปรับในอัตราสูงสำหรับความผิดนั้น หรือผู้ต้องหายอมเสียค่าปรับตามที่เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือพนักงานสอบสวนได้เปรียบเทียบปรับ
ถ้าคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล ถ้าศาลพิพากษาให้ต้องโทษปรับ ถ้าผู้ต้องโทษไม่ชำระค่าปรับภายในสามสิบวันจะต้องถูกยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับ หรือจะต้องถูกกักขังแทนค่าปรับ โดยอัตราห้าร้อยบาทต่อวัน
โทษปรับทางปกครอง
ต่อมามีการพัฒนาระบบกฎหมายไทยอีกขั้นหนึ่ง โดยกำหนดให้มีโทษทางปกครองขึ้นแทนการปรับทางอาญา การตราพระราชบัญญัติบางฉบับในช่วงนั้น จึงกำหนดให้มีโทษปรับทางปกครองที่มีลักษณะคล้ายเป็นการลงโทษในทางแพ่ง สำหรับการกระทำฝ่าฝืนกฎระเบียบหรือคำสั่งทางปกครองตามบทบัญญัติของกฎหมายนั้นฯ
โทษปรับทางพินัย
คณะกรรมการพัฒนากฎหมาย ได้ศึกษาระบบการกำหนดโทษตามกฎหมายของต่างประเทศ เพื่อปฏิรูประบบการกำหนดโทษในระบบกฎหมายไทยให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของมาตรา77 วรรคสามแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติให้รัฐพึงกำหนดโทษทางอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง
และพิจารณากำหนดโทษทางอาญาให้เหมาะกับสภาพความผิดและฐานะของผู้กระทำความผิด เพื่อมิให้บุคคลต้องรับโทษหนักเกินสมควรหรือต้องรับภาระในการลงโทษที่แตกต่างกันอันเนื่องจากฐานะทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
จึงได้มีการยกร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย และได้ตราเป็นพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่22มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติ
คำนิยาม
“ปรับเป็นพินัย” หมายความว่า สั่งให้ผู้กระทำความผิดทางพินัย ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
“ความผิดทางพินัย” หมายความว่าการกระทำ งดเว้นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎหมายนั้นบัญญัติให้ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัย
ข้อสังเกต จากคำนิยามทั้งสองคำข้างต้น ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความกระจ่าง ว่า ความผิดทางพินัยเป็นอย่างไร เพราะเมื่อกล่าวถึง คำว่า ค่าปรับเป็นพินัย ก็โยงไปว่าเป็นการกระทำความผิดที่ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัย เมื่อกล่าวถึงความผิดทางพินัยก็โยงกลับว่าเป็นการกระทำความผิดที่กฎหมายนั้นบัญญัติให้ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัย
เพื่อหาความชัดเจน ของคำว่าความผิดทางพินัย โดยพิจารณาจากคำปรารภของพระราชบัญญัตินี้ที่แสดงถึงเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับนี้
จากคำปรารภของพระราชบัญญัติฉบับนี้อาจสรุปได้ว่า ความผิดทางพินัยคือการกระทำความผิดในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในกรณีที่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง หรือไม่มีผลกระทบต่อส่วนรวมอย่างกว้างขวาง
เป็นกฎหมายกลางสำหรับการดำเนินการปรับเป็นพินัย
-พระราชบัญญัติฉบับนี้ ถือเป็นกฎหมายกลาง สำหรับการดำเนินการในการปรับเป็นพินัยตามบทกฎหมายอื่นฯที่กำหนดให้มีการปรับเป็นพินัย และไม่ถือว่าการดำเนินการปรับเป็นพินัยเป็นการกระทำทางปกครองหรือคำสั่งทางปกครอง และไม่ใช่โทษทางอาญา
- การกำหนดค่าปรับเป็นพินัย (ซึ่งต้องไม่เกิน อัตราขั้นสูงที่กฎหมายกำหนดไว้) ให้พิจารณาความเหมาะสมข้อเท็จจริง ที่กฎหมายฉบับนี้ไว้สี่ข้อ ที่สำคัญคือระดับความรุนแรงผลที่กระทบต่อชุมชนหรือสังคมจากการกระทำความผิด ความ รู้ผิดชอบประวัติส่วนตัวของผู้กระทำผิด อายุ สติปัญญา การศึกษาอบรมสุขภาพ นิสัยอาชีพ สิ่งแวดล้อม ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดและสถานะทางเศรษฐกิจของผู้กระทำความผิด
เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดความผิดเป็นพินัยนั้นกำหนดไว้ ถ้าไม่มีบัญญัติไว้ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมายนั้นกำหนด
- การกระทำใดอันเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดพินัยหลายบท ให้ใช้กฎหมายบทที่กำหนดปรับเป็นพินัยสูงสุดในการปรับผู้กระทำความผิด
- ผู้กระทำความผิดพินัยอันเป็นความผิดทางพินัยหลายกรรมต่างกัน ให้ปรับเป็นพินัยผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
- ผู้กระทำความผิดอันเป็นหลายกรรม บางกรรมเป็นความผิดทางพินัย บางกรรมเป็นความผิดทางอาญา ให้เจ้าหน้าที่รัฐปรับเป็นพินัย ในกรรมที่เป็นความผิดทางพินัย และแจ้งให้พนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง พิจารณาดำเนินคดีอาญาสำหรับกรรมที่เป็นความผิดอาญาต่อไป
การชำระค่าปรับเป็นพินัย
- ผ่อนชำระตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้และชำระค่าปรับผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามเกณฑ์ที่กำหนดได้
- ในกรณีผู้กระทำผิด เป็นบุคคลธรรมดา กระทำผิดพินัยเพราะความยากจนเหลือทนทาน เพราะความจำเป็นอย่างแสนสาหัส อาจยื่นคำร้องขอเพื่อให้กำหนดค่าปรับต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือขอทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยขน์แทนค่าปรับเป็นพินัยก็ได้
- ผู้กระทำความผิดที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่มีเงิน ชำระค่าปรับเป็นพินัย อาจยื่นคำร้องขอทำงานเพื่อบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับเป็นพินัยก็ได้
- ผู้ต้องคำพิพากษาให้ชำระค่าปรับเป็นพินัย ไม่ชำระค่าปรับเป็นพินัยในเวลาที่ศาลกำหนด ให้ศาลออกหมายบังคับคดีเพื่อยึดทรัพย์หรือสิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของผู้นั้น เพื่อชำระค่าปรับเป็นพินัย (ไม่มีการกักขังแทนค่าปรับพินัย เช่นค่าปรับทางอาญา)
- ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐบันทึกการกระทำความผิดทางพินัยของบุคคลใดรวมไว้ในประวัติอาชญากรรมหรือบันทึกเป็นประวัติอาชญากรรม
การเปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียวหรือเป็นความผิดที่มีโทษปรับทางปกครองเป็นความผิดทางพินัยตามกฎหมายฉบับนี้
- เมื่อพ้นกำหนดสามร้อยหกสิบวัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้เปลี่ยนความผิดอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายในบัญชี 1(พระราชบัญญัติ168 ฉบับ) เป็นความผิดทางพินัย ตามพระราชบัญญัตินี้ และให้ถืออัตราโทษปรับทางอาญาเป็นอัตราโทษปรับทางพินัย
- สำหรับความผิดทางอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามกฎหมายตามบัญชี2 (พระราชบัญญัติ33ฉบับ) จะเปลี่ยนเป็นความผิดทางพินัยได้โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
- ให้เปลี่ยนโทษปรับทางปกครองตามกฎหมายในบัญชี3 (พระราชบัญญัติ 3 ฉบับ) เป็นความผิดทางพินัย และให้ถืออัตราโทษปรับทางปกครองดังกล่าวเป็นอัตราโทษปรับทางพินัย ตามกฎหมายนี้
- บรรดาความผิดทางอาญาที่เปลี่ยนเป็นความผิดทางพินัย ที่มีการบันทึกประวัติอาชญากรรมของบุคคลไว้ หรือในฐานะประวัติอาชญากรรมให้เป็นอันสิ้นผล