'บิ๊กโจ๊ก' ยันกู้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิด งานเลี้ยง 'กำนันนก' ได้แล้วสภาพสมบูรณ์

ความคืบหน้าคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ทล.1 กก.2 บก.ทล. เสียชีวิต ที่มีนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ  "กำนันนก" กำนันตำบลตาก้อง จ.นครปฐม เป็นผู้ต้องหา ร่วมกับตำรวจอีก 6 นาย ที่ตกเป็นผู้ต้องหา เนื่องจากให้การช่วยเหลือ กำนันนก และ "หน่อง ท่าผา" มือปืนที่ถูกวิสามัญ 

ล่าสุด เมื่อเวลา 20.20 น. วานนี้ (10 ก.ย.66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. 'บิ๊กโจ๊ก' เดินทางมาติดตามความคืบหน้า คดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7)  โดยระบุว่า วันนี้ได้ทำการสอบปากคำพยานตลอดทั้งวัน โดยคาดว่าจะสอบพยานเสร็จภายใน 3-4 วันนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเรียกพยานทั้งในเหตุการณ์และพยานแวดล้อมมาสอบปากคำพยานเรื่อยๆ 

ส่วนการสอบปากคำวันนี้ ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเก่ง ลูกน้องของกำนันนก และนายโบ๊ท คนที่นำ เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด ไปทิ้งฐานความผิดทำลายหลักฐาน ไปแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่า มีลูกน้องกำนันนกที่จะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหา ฐานทำลายพยานหลักฐาน เพิ่มเติมอีกรวม 5 ราย

ส่วนคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้ทราบว่า มีทั้งหมด 36 คน มีตำรวจ 26 นาย และพลเรือน 10 ราย ในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงตอนนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่พาคนเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล ส่วนที่สองคือตำรวจที่ช่วยทำลายหลักฐาน และให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาในการหลบหนี และส่วนที่สามคือ ตำรวจที่ไม่ทำอะไรเลย แล้วหนีกลับ ซึ่งต้องมาดูกันว่ามีใครอยู่ในกลุ่มไหนบ้าง โดยตอนนี้มีความคืบหน้ามากพอสมควร แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนคดี 

สำหรับประเด็นที่ตำรวจพาคนเจ็บและผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ได้รับรายงานว่ามีประมาณ 10 คนด้วยกัน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่ามีมากกว่านี้หรือไม่ แล้วทั้ง 10 คน ทำการช่วยเหลือคนเจ็บและคนเสียชีวิตส่งโรงพยาบาลจริงหรือไม่ ใครทำหน้าที่อะไรบ้าง ไม่ใช่เหมารวมว่าไปหาที่โรงพยาบาลเพียงอย่างเดียวแล้วจะช่วยทั้งหมด โดยหากพบว่าตำรวจที่ให้การช่วยเหลือจริงๆนั้น ก็อาจจะไม่ถูกดำเนินคดี เพราะการช่วยเหลือถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยอีกว่า หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นใครฐานความผิดอะไร ในส่วนประเด็นที่มีคนอ้างตัวว่า เป็นลูกน้องของ "กำนันนก" ได้มีการโพสต์ลงในโซเชียลว่า จะมีการรวมตัวกันเพื่อชิงตัวประกันนั้น ตอนนี้ทราบแล้วว่าเป็นใครแต่ยังไม่ถือว่า มีการกระทำความผิด แต่จะมีการเรียกตัวมาปรับทัศนคติและทำความเข้าใจ โดยพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวที่โพสต์ เป็นพวกเกรียนคีย์บอร์ด

และอีกส่วนหนึ่งที่จะต้องขยายเพิ่มเติม คือ เกี่ยวกับเรื่องของกิ่งก้านสาขาของลูกน้องของกำนันนกทั้งหมด รวมถึง เรื่องการทำธุรกิจ ต้องรื้อทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการประมูลการฮั้วประมูลหรือไม่ และอาจจะต้องขยายผล หากพบการกระทำผิดจะต้องมีการยึดทรัพย์ทุกรายการ  วันนี้ต้องไม่ไปเป็นไม้ค้ำยันให้กับคนไม่ดี การที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ ก็ได้เห็นตัวอย่างแล้ว ซึ่งก็จะต้องเป็นตัวอย่างสุดท้ายของวงการตำรวจ  ถ้าตนยังยืนอยู่ตรงนี้ในฐานะรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 

แต่สำหรับสำนวนหลักการสั่งการผู้ใช้จ้างวานยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้มีพยานหลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว มีมูลเหตุจูงใจที่ชัดเจน โดยมูลเหตุประการแรกคือเรื่องการที่ฝากลูกน้องแล้วไม่ได้ทุบโต๊ะเสียหน้า 

 

"แต่ต้องมองย้อนไปว่า ตำรวจเหล่านี้ถึงขนาดที่ไปดื่มเหล้า และถอดเสื้อ ก็เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า กำนันนกสามารถสั่งให้ถอดเสื้อได้ ถอดเสื้อปลดอาวุธ พฤติกรรมเหล่านี้ก็ต้องเรียนตามตรงว่า ตำรวจทั้งหมดที่ทำได้ขนาดนี้ มันก็พ้นขีดเส้นความเป็นตำรวจไปแล้ว เพราะฉะนั้นต้องลงโทษให้หมดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ต้องเรียนแบบนี้ว่า ตำรวจที่อยากทำงานเพื่อประชาชนมีเยอะแยะ แต่ถ้าผู้บังคับบัญชา ผู้กำกับมานั่ง ลูกน้องก็ต้องมานั่งตาม ถ้าผู้บังคับบัญชาเป็นตัวอย่างเรื่องนี้มันก็จะไม่เกิด  วันนี้จึงต้องทำให้เห็น ถ้าคนไหนไม่ดี น้ำเสียไม่ดีก็ต้องเอาออก น้ำดีดีตำรวจทางประเทศจะได้อยู่อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตำรวจชั้นประทวนจ่าดาบทั้งประเทศวันนี้ เค้าอยากมีเกียรติมีศักดิ์ศรี" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้เซิร์ฟเวอร์วงจรปิดที่มีการค้นพบเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานมาว่า สามารถกู้คืนได้อย่างแน่นอน สภาพยังสมบูรณ์ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3วัน ซึ่งต้องรอเอกสารรายงานมาให้ตนเองก่อน เพราะตอนนี้มีเพียงการพูดคุยเท่านั้น แต่ระบุได้ว่า เห็นตัวบุคคลในที่เกิดเหตุชัดเจน