ด่วน! ปฎิบัติการฟ้าแลบค้น 15 จุด บิ๊กก้องมั่นใจ 100% ปิดเกมเครือข่าย 'กำนันนก'
ข่าวด่วน! ปฎิบัติการสายฟ้าแลบ ปูพรหม ค้น 15 จุดเครือข่าย ‘กำนันนก’ ประวีณ จันทร์คล้าย เช็กบิล กลุ่มผู้มีอิทธิพลนครปฐม "บิ๊กก้อง" ลั่นมั่นใจ100% ปิดเกมเครือข่าย "กำนันนก"
คดีดังสะเทือนบ้านใหญ่นครปฐม วันนี้ 13 ก.ย. 66 เวลา 05.00 น. ฝ่ายใต้อำนวยการและกำกับการดูแลรับผิดชอบโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หรือ บิ๊กโจ๊ก , พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก , พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว (รรท.ผบก.ทล.) ร่วมกันสนธิกำลัง ตำรวจกว่า 100 นาย
เปิดปฏิบัติการสายฟ้าแลบเปิดยุทธการปูพรมลุยค้น 15 จุด เฉพาะในเมืองนครปฐม ค้นทั้งหมด 13 จุด ที่กำแพงแสน 2 จุด ขยายผลสาวไส้ต้นตอเครือข่ายกำนันนก นายประวีณ จันทร์คล้าย เช็กบิลอิทธิพลเถื่อนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย หลังงานเลี้ยงมรณะ มือปืนสังหาร พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรทางหลวง และต่อมา พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการทางหลวง ยิงตัวตาย
"บิ๊กก้อง" ลั่นปิดเกมเครือข่าย "กำนันนก"
พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ "บิ๊กก้อง" กล่าวกับ "เนชั่นทีวี" ว่ามั่นใจในพยานหลักฐานทั้งหมดที่รวบรวมได้ว่าจะสามารถเอาผิดเครือข่าย "กำนันนก" และผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกรายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
"ไม่มีหลุดแน่นอน คิดว่าไม่รอดทั้งขบวนการ ผมมั่นใจ และได้ติดตามการรวบรวมพยานหลักฐานอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด"
ส่วนมูลเหตุหรือแรงจูงใจในการสังหาร "สารวัตรแบงค์" นั้น พลตำรวจโทจิรภพ บอกว่า ประเด็นที่มีพยานยืนยันชัดเจนหนักแน่นที่สุด ณ เวลานี้คือการขอย้ายสายงานตำรวจ ที่นำมาสู่ความขัดแย้งและการมีปากเสียงกันภายในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุ
สำหรับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหน่วยงานต้นสังกัดของกองบังคับการตำรวจทางหลวง และ พลตำรวจโทจิรภพ เองมีความสนิทสนมและเคยร่วมงานกับ "สารวัตรแบงค์" พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว โดยเฉพาะช่วงที่ดำรงตำแหน่ง สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม
โดยได้ร่วมคลี่คลายคดีสำคัญของกองปราบ และสอบสวนกลางมากมาย เช่น จับกุม "เสี่ยโป้" ชักชวนเล่นพนันออนไลน์ , จับผู้ต้องหาชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราช โลตัส วังหิน เป็นต้น
กู้ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ จะอนุมัติหมายจับทัน ตรวจเส้นทางการเงินครบ เข้าตรวจค้นเป้าหมายทันที
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ขณะะนี้เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุ สามารถกู้ได้ ผลการกู้ในวันพฤหัสจะเสร็จสิ้น
ตำรวจประชาชนที่อยู่ในคืนเกิดเหตุสอบครบหมดแล้ว การสืบสวนก้าวหน้าตอนนี้รอข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ เมื่อข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ปรากฎผนวกกับรายงานการสืบสวน จะอนุมัติหมายจับได้ทันที
เรื่องของเครือข่ายทางการเงินยังมาไม่ครบ ตอนนี้รอเส้นทางการเงิน แล้วก็เตรียมจะเข้าค้น เตรียมที่จะขยายต่อเครือข่ายกิ่งก้านสาขาของกำนันนก การประกอบธุรกิจทั้งหมด
ขณะนี้ได้หารือกับกรมบัญชีกลาง จะทำงานร่วมกัน เพราะได้ข้อมูลจากกรมบัญชีกลางมาแล้ว จะประสานกับสำนักงาน สตง. เข้าไล่เรียงทั้งหมด รวมทั้งขยายประกอบธุรกิจที่ไม่ถูกกฎหมาย ถ้ามีดำเนินคดีทั้งหมด ใครเกี่ยวพันบ้าง
สำหรับในเรื่องตัวกำนันนก ได้ฝากอธิบดีกรมราชทัณฑ์กำชับเรื่องความปลอดภัย มีการปฎิบัติเท่าเทียมกันกับคนอื่น ไม่มีสิทธิพิเศษ สำนวนไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ
ส่วนเรื่องมีการวิ่งเต้นให้กำนันออกจากเรือนจำนั้น ได้อ้างปัญหาสุขภาพ บิ๊กโจ๊กกล่าว กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ตนและพนักงานสอบสวนก็คัดค้านการประกันตัว ว่าไปตามขบวนการ ทำไปตามขบวนการยุติธรรม จังหวัดนครปฐม ต้องเป็นจังหวัดที่เป็นแบบอย่าง
ผู้การฯคนไหน ผู้กำกับคนไหนไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีศักยภาพ ก็ไม่ต้องอยู่ ถ้าอยู่แล้วเดือดร้อนประชาชน ถึงขนาดให้ ผบช. รอง ผบ.ตร. ลงมาเอง ก็ไม่ต้องมีผู้การ หรือ ผู้กำกับการ ถ้าหย่อนยานก็ไม่ต้องอยู่ จากนี้ไปก็จะไล่เรียงความละเอียดในสำนวนการสอบสวนต่อไป
อัปเดต ค้นบ้านเครือข่ายกำนันนก-เครือข่ายผู้มีอิทธิพล 15 จุดนครปฐม ค้นบริษัท คนใกล้ชิด
ช่วงเช้าวันนี้ 13 ก.ย. 66 ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ปปป. ป.ป.ท. ป.ป.ช. ปปง. ตำรวจภูธรภาค 7 และ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นำกำลังเกือบ 100 นาย เปิดปฏิบัติทลายเครือข่ายกำนันนก และเครือข่ายผู้มีอิทธิพล ออกตรวจค้นจุดเป้าหมาย 15 จุด ในพื้นที่ จังหวัดนครปฐม แบ่งเป็น อ.กำแพงแสน 1จุด อ.สามพราน1จุด และ อ.เมือง 13 จุด
ซึ่งปฏิบัติการ แบ่งเป็นช่วงเช้า กับช่วงสาย ช่วงเช้า จะเป็นการเข้าตรวจค้นเครือข่ายผู้มีอิทธิพล
โดยจุดแรกที่เข้าตรวจค้นคือ พื้นที่ ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ที่ถูกระบุว่าเป็น บ้านพักของเครือข่ายกำนันนก คือ นายศักรินทร์ หรือฉายาว่า กำนันเต้ง ทุ่งรี มีความเกี่ยวข้องกับกำนันนกในการฮัวประมูลโครงการหนึ่ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง ได้มีการแสดงหมายค้นกับพี่สาวของกำนันเต็ง และเข้าไปค้นภายในบ้านพัก และห้องที่กำนันเต้งพัก ยังไม่พบอะไรผิดปกติ
โดยญาติของกำนันเต้ง ระบุว่า กำนันเต้งไม่ได้อยู่บ้านออกไปทำธุรกิจเปิดร้านขายอาหารที่ประเทศกัมพูชาเป็นปีแล้ว ซึ่งตอนอยู่ประเทศไทยก็รับจัางทั่วไป
ทั้งนี้ยืนยันได้ว่า ทางครอบครัวญาติพี่น้องและกำนันเต้ง ไม่รู้จักกับกำนันนก ไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรือรับงานของบริษัทรับเหมาของกำนันนก และไม่เคยทำงานให้กับนักการเมืองท้องถิ่น หรือซุ้มมือปืน รวมถึงไม่รู้จักเครือข่ายผู้มีอิทธิพล และกำนันเต้งไม่ได้เป็นกำนันแต่ชาวบ้านเรียกว่ากำนันเต้ง
นอกจากนี้ ยังมีการเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 ซอยวัดทุ่งรี ซึ่งเป็นบ้านของกำนันเต้งเช่นกัน และพบเพียงลูกน้องอยู่ภายในบ้าน ซึ่งกำนันเต้งก็ไม่ได้อยู่ในบ้านหลังนี้ แต่บ้านหลังนี้ภายในแบ่งพื้นที่เปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุเอกชน มีรถยนต์บีเอ็มดับบลิวสีขาวป้ายแดงจอดอยู่ที่โรงรถ 1 คัน และรถจักรยานยนต์จอดอยู่อีก 1 คัน และญาติให้ข้อมูลว่า กำนันเต้งมีภรรยาหลายคนจึงมีบ้านหลายหลัง
และจากการตรวจสอบข้อมูลในเฟซบุ๊กของกำนันเต้ง พบว่า เมื่อ 3 วันก่อนยังมีการไลฟ์สดขายอาหารจากประเทศกัมพูชาจริง
นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านพักของ จ.ส.ต.พิสิฐ ชิวปรีชา ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ซึ่งเป็นบุคคลที่ตามกระแสข่าวรายงานว่าเป็นหลานของกำนันนกที่ขอย้ายตำแหน่งจากสารวัตรแบงก์ แต่จนเกิดมีปากเสียงกันและเกิดเหตุยิงสารวัตรเสียชีวิตในคืนวันที่ 6 ก.ย.
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงไม่พบตัวจ.ส.ต.พิสิฐ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นพบ อาวุปืน 9 กระบอก เป็นปืนยาว 3 กระบอก ปืนสั้น 6 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกลับไปเพื่อตรวจสอบต่อไป
ด้านนายอานนท์ ผู้เป็นอาของ จ.ส.ต.พิสิฐ ยืนยันว่าทางบ้านรวมถึงตัวจ่าอาร์ตไม่ได้รู้จักกับกำนันนก ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเป็นหลาน หรือสนิทสนมกันแต่อย่างใด ซึ่งย้ำว่าคนแถวนี้ไม่เคยได้ยินชื่อกำนันนกมาก่อน รู้สึกแปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเชื่อว่าสาเหตุที่หลานของตนได้ไปงานเลี้ยงวันนั้นเพื่อตามเจ้านายไปเท่านั้นไม่ได้มีการร้องขอตำแหน่งอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ขณะที่ช่วงสายเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปตรวจค้น จุดสำคัญที่เกี่ยวข้อง เชื่อมโยง กับบริษัทรับเหมาก่อสร้างถนนของกำนันนก โดยจุดใหญ่คือ ในพื้นที่ อ.เมือง 3จุด และพื้นที่ อ.กำแพงแสน 1จุด
เวลา 08.30 น. ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังชุดปฏิบัติพิเศษ มาถึงจุดเป้าหมาย ซึ่ง บริษัทในตำบลกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง โดยจากข้อมูลแนวทางการสืบสวน พบว่า บริษัทนี้มีนายแบงค์ ซึ่งถูกระบุว่า เป็นคนสนิทของกำนันนก เป็นหุ้นส่วนบริษัท
และบริษัทนี้ทจากข้อมูลการสืบสวน ยังพบอีกว่า ได้ยื่นประมูลเป็นบริษัทคู่เทียบในการประกวดราคาโครงการก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครปฐม แข่งกับ บริษัทของกำนันนก
โดยเมื่อมาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางได้แต้งหมายศาล และนำกำลังเข้าตรวจค้น พูดคุยกับเจ้าของบ้านและนายแบงค์ที่อยู่ภายในบ้าน
จากนั้นได้เข้าตรวจสอบเอกสารต่างๆของบริษัท ในห้องทำงานที่เก็บเอกสาร โดยนำเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร และเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง เข้ามาร่วมตรวจสอบเอกสารต่างๆด้วย เพื่อหาข้อมูล หลักฐานว่ามีเฝส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั๊วประมูลโครงการก่อสร้างต่างๆหรือไม่