'พล.ต.อ.เอก' แจงโหวตค้านเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ ชี้ไม่เป็นหลักเกณฑ์
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ แจงโหวตค้านเลือก ผบ.ตร. คนใหม่ ชี้ไม่เป็นหลักเกณฑ์
วันที่ 28 กันยายน 2566 พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มาจากการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ “Aek Angsananont” เกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า
เมื่อวาน(27 ก.ย.2566)เป็นการประชุม ก.ตร.ครั้งสำคัญที่ต้องบันทึกไว้ การประชุมมีวาระการแต่งตั้ง ผบ.ตร.โดยนายกรัฐมนตรีเสนอชื่อ ผบ.ตร.ให้ ก.ตร.พิจารณาให้ความเห็นชอบ เป็นครั้งแรก
ผลการประชุม ก.ตร.มีมติเสียงข้างมาก(9 ต่อ1 งดออกเสียง 2) เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอให้พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนต่อไป
ผมได้ทำหน้าที่ ด้วยการอภิปรายแสดงความคิดเห็นถึง บริบทกฏหมายการแต่งตั้งตำรวจ เริ่มตั้งแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับปฎิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ปรับปรุงกฎหมายบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เกิดประสิทธิภาพ มีหลักประกันว่าตำรวจจะได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อิสสระ ไม่ตกอยู่ใต้อาณัติของบุคคลใด
พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 (ฉบับปฎิรูปตำรวจ) ปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยระบุเหตุผลและความจำเป็นเพื่อให้การบริหารงานบุคคลเป็นไปตามระบบคุณธรรม มีมาตราการป้องกันมิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ การแต่งตั้งคำนึงถึงอาวุโส และความรู้ความสามารถ ให้ความสำคัญของอาวุโสในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับ
กฎหมายตำรวจฉบับนี้มีบทบัญญัติในหลายมาตรา ( ม.60 ม.87 ม.88 ม.150 )ที่ทำให้เห็นเจตนารมณ์ของกฎหมาย มุ่งเน้นในเรื่องระบบคุณธรรม และการคุ้มครองระบบคุณธรรม ตลอดจนกำหนดโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา
ผมได้โหวตไม่เห็นด้วยเป็นเสียงข้างน้อย ด้วยเหตุผลที่ได้ขอบันทึกไว้ในรายงานการประชุมว่า
“การคัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.ไม่เป็นหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้”
ผมขอยืนยัน ได้แสดงความคิดเห็นด้วยบริสุทธิ์ใจ ใช้วิจารณญาณและดุลพินิจ ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ยอมตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด เพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจและประเทศชาติบ้านเมือง
ขอกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ที่ผมเคารพอย่างยิ่ง ที่ได้กรุณาเข้าใจในการโหวตของผม ขอบพระคุณอดีตผู้บังคับบัญชา และทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนและให้กำลังใจ
ผมจะทำหน้าที่ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ ”ปกป้องศักดิ์ศรี ตำรวจดีของประชาชน” ต่อไป