ฉาว 423 ตร. ถูกสวมสิทธิ์กู้สหกรณ์ ผู้การฯลำพูน ยันไม่มีตร.ชั้นผู้ใหญ่เอี่ยว
คืบหน้า! ปมฉาว 423 ตำรวจถูกสวมสิทธิ์กู้สหกรณ์ 220 ล้าน 'ผู้การฯลำพูน' สั่งเร่งแก้ปัญหา ยันไม่มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวข้อง
วันที่ 29 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มตำรวจลำพูนที่เสียหายจากคดีทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ได้เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จังหวัดลำพูน เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน เพิ่มวงเงินกู้และสวมสิทธิ์นำเอกสารไปกู้เงิน ทำให้ตำรวจแต่ละนายมีหนี้สินเพิ่มเป็น 2 เท่า มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
ร.ต.ท.สุพรรณ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้กู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน 4 แสนบาท และผ่อนตรงตามเวลามาโดยตลอด จนกระทั่งปลายปี 2565 พบความผิดปกติจึงตรวจสอบ ก็พบว่าในสัญญาเงินกู้ถูกขีดฆ่าและเพิ่มวงเงินเป็น 9 แสนบาท นอกจากนั้นยังมีการนำเอกสารไปกู้เงินสวัสดิการอื่นๆอีก 2 แสนบาท ทำให้ตนเป็นหนี้มากถึง 1 ล้าน 1 แสนบาท
ทางด้าน พล.ต.ต.บุณยวัต เกิดกล่ำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ในฐานะประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจลำพูน ได้มีการแถลงความคืบหน้าการแก้ปัญหา ว่า หลังทราบเรื่องในเดือนมกราคม 2566 ได้สั่งให้มีการตรวจสอบ ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่สหกรณ์กระทำผิด 3 คน โดยเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ 2 คน และการเงินอีก 1 คน ทำการทุจริตด้วยการเพิ่มวงเงินกู้ และสวมสิทธิ์นำเอกสารไปกู้เงินในโครงการอื่น มีข้าราชการตำรวจทั้งเกษียณไปแล้วและยังทำงานอยู่ได้รับความเสียหาย 423 คน มูลค่าความเสียหาย 220 ล้านบาท ซึ่งได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนดำเนินคดีแล้ว และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินยังไม่พบมีกรรมการหรือบุคคลอื่นร่วมด้วย
ล่าสุดทาง ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบยอดความเสียหาย และจะทำการถอดหนี้และปรับสถานะให้กับสมาชิกที่ถูกทุจริตและสวมสิทธิ์ต่อไป ส่วนมาตรการช่วยเหลือจะงดเก็บดอกเบี้ยให้สมาชิกที่กู้เงินสหกรณ์ 2 เดือน พร้อมเร่งนำทรัพย์สินที่ยึดได้จากกลุ่มผู้ต้องหาไปประมูลนำเงินมาช่วยสมาชิก ขณะนี้ได้เงินคืนมาแล้วประมาณ 16 ล้านบาท และจะทยอยประมูลทรัพย์สินอื่นๆเพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่ว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
โดย วสันต์ ปัญญาเรือน จ.ลำพูน