กราดยิงพารากอน ตร.เรียกเพื่อน-ผู้ปกครองเด็ก 14 หมายจับ 3 จับ 2 ขายปืนออนไลน์
อัปเดต กราดยิงพารากอน ตร.เรียกเพื่อน-ผู้ปกครองเด็ก 14 พูดคุย ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 3 คน จับแล้ว 2 พ่อค้าขายปืนออนไลน์
ภายหลังจากเกิดเหตุสะเทือนขวัญ กราดยิงพารากอน เด็กชายอายุ 14 ปี กราดยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก่อนที่เด็กชายจะถูกตั้งข้อหาหนัก และนำตัวส่งสถานพินิจไปแล้ว
ล่าสุด พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์ จงอิทธิ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน ระบุว่า วันนี้จะไม่มีการเรียกใครมาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด ส่วนกรณีเพื่อนของเด็กชายอายุ 14 ปี ทางเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวมาพร้อมผู้ปกครอง และพูดคุยในเบื้องต้นไปแล้วตั้งแต่วานนี้ ส่วนรายละเอียดการซักถามไม่สามารถเปิดเผยได้
หมายจับ 3 ราย
ท่ามกลางกระแสข่าว ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 3 คน คดีเด็กวัย 14 ปี ก่อเหตุที่กราดยิงพารากอน ดังนี้
1. ผู้ขายปืนทางออนไลน์
2. ผู้ไปกดเงินที่ตู้ ATM
3. ผู้ดัดแปลงอาวุธปืน
ทั้งนี้ เด็กชายวัย 14 ปีผู้ก่อเหตุให้การว่าซื้ออาวุธแบลงค์กัน ทางออนไลน์มาในราคา 16,000 บาท ตำรวจสืบสวนพบบุคคลทั้ง 3 ที่ขายปืนแบลงค์กันให้เด็ก คนที่ไปกดเงินที่ ATM เบิกยอดเงิน 1.6 หมื่นบาท และคนที่รับจ้างดัดแปลง
จับแล้ว 2 พ่อค้าขายปืนออนไลน์ เด็ก 14
ตำรวจขยายผลกวาดล้างปืนเถื่อนที่ขายแพร่หลายผ่านโลกออนไลน์ ซึ่งพบว่าเป็นแหล่งต้นตอที่เยาวชนวัย 14 ปี ซื้อปืนนำมาก่อเหตุร้าย กลางห้างดัง ล่าสุดมีรายงานว่าทางตำรวจ สน.ยานนาวา ได้มีการขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ จับกุม 3 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเด็ก 14 ก่อเหตุยิงกลางห้างดัง โดยตำรวจสืบทราบว่า บุคคลทั้ง 3 ราย เป็นผู้ที่จำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนให้กับผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานระบุอีกว่า ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย ในพื้นที่ จ.ยะลา คือ นายสุวรรณหงษ์ (สงวนนามสกุล) และนายอัครวิชญ์ (สงวนนามสกุล) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการนำตัวเข้ากรุงเทพฯ โดยทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากการตรวจสอบบัญชีหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม พบเส้นทางการเงินมีการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.ยะลา
เพื่อนร่วมงานเหยื่อกราดยิงพ้อ ไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ไร้เงาผู้ปกครองเด็ก 14 ร่วมงานศพ
จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ก่อเหตุยิงในห้างพารากอน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.จ้าว อายุ 34 ปี ชาวจีน และ น.ส.ตะวัน ชาวเมียนมา ทำให้นายจ้างและญาติของชาวเมียนมาเดินทางไปรับศพผู้เสียชีวิตมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดผาสุกมณีจักร อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ เป็นเวลา 5 คืน ตั้งแต่วันที่4 ตุลาคม-วันที่ 8 ตุลาคม และฌาปนกิจศพในวันที่ 9 ตุลาคม 66 เวลา 17.00 น.
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 4 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดผาสุกมณีจักร โดยพบว่ามีเพื่อนร่วมงานในบริษัทที่ น.ส.ตะวันทำงานอยู่เดินทางมาร่วมฟังพระสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งเพื่อนร่วมงานบางคนถึงกับหลั่งน้ำตากอดคอแสดงความเสียใจกันออกมาต่อหน้ารูปถ่ายตั้งหน้าโลงศพ โดยหลายคนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
ทางด้านนางดา เจ้าของบริษัท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ว่า หลังจบเรื่องงานศพของ น.ส.ตะวันแล้ว ตนจะมอบหมายให้ทางทนายความของบริษัทดำเนินการฟ้องร้องติดตามค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวผู้ก่อเหตุต่อไป แต่ในส่วนของตนเองขอยืนยันอีกครั้งตรงนี้ว่า ตนจะจ่ายเงินเดือนละ 1 หมื่นบาทให้กับทางครอบครัวของ น.ส.ตะวันตลอดไป เนื่องจากเห็นใจทางครอบครัวของ น.ส.ตะวัน ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวที่เข้ามาทำงานเพื่อส่งเงินกลับไปให้แม่ที่กำลังป่วยเป็นโรครุมเร้าหลายโรคเพียงลำพัง ตนเห็นใจที่ทางครอบครัวที่ต้องมาสูญเสียเสาหลักอย่าง น.ส.ตะวันไป
ทางด้าน น.ส.ใหม่ เพื่อนสนิทสาวชาว กล่าวว่า ในวันนี้ส่วนใหญ่ที่เดินทางมาร่วมงานศพเป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัทเดียวกับ น.ส.ตะวัน ซึ่งทุกคนยังรู้สึกเศร้าเพราะมันกระทันเกินไป ยังไม่มีใครตั้งตัวกันทัน และตนยังไม่เห็นครอบครัวของคนก่อเหตุเดินทางมาร่วมงานศพหรือขอโทษ แสดงความเสียใจอะไรออกมา ตนอยากให้ทางผู้ปกครองของ้ด็กรายนี้มาขอขมาศพมาแสดงความเสียใจบ้างก็ยังดี ตอนนี้แม่ของผู้เสียชีวิตทราบเรื่องลูกสาวเขาถูกยิงตายแล้วก็ช็อกเป็นลมหมดสติไป ซึ่งทางแม่เขาเองแม้เจ็บป่วยอยู่ก็อยากเดินทางมาร่วมงานศพล฿กเป็นครั้งสุดท้าย อย่างน้อยมาทันวันเผาศพลูก เพื่อมาดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือทางสถานฑูตเร่งให้ความช่วยเหลือพาแม่ของ น.ส.ตะวันผู้เสียชีวิตเดินทางมาให้เร็วที่สุด โดยช่วยอำนวยความสะดวกให้ ตนเชื่อว่าก็จะสามารถพาแม่ น.ส.ตะวันมาร่วมงานศพได้ทันก่อนถึงวันเผา
น.ส.จูน (นามสมมุติ) เพื่อนร่วมงานคนไทย กล่าวว่า พี่ตะวันเป็นคนน่ารักชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร พี่เขาทำหน้าที่เป็นคนดูแลที่หน้าร้านคอยดูแลลูกค้า เพราะพี่เขาพูดได้หลายภาษา จีน อังกฤษ ไทย และเมียนมา สื่อสารได้ดี จึงได้รับหน้าที่ให้มาดูแลลูกค้าที่ห้างพารากอนที่มีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าบริษัทสูญเสียบุคลากรที่ดีไป ซึ่งตอนนี้พนักงานในบริษัทหลายคนยังคงเสียขวัญและเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทุกคนรู้สึกหดหู่ใจมาก ไม่คิดว่าจะมาเกิดกับคนใกล้ตัว ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นในสถานที่มี่มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งน่าจะมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีและมีมาตรฐานกว่านี้ ส่วนในตอนนี้ตนก็เป็นห่วงเรื่องที่อยากให้ทางแม่ของเขาเดินทางมาร่วมงานลูกสาวเขาเป็นครั้งสุดท้าย อยากให้ทางสถานฑูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือพาแม่ของพี่เขามาร่วมงานครั้งสุดท้ายให้ทันวันเผาศพก็ยังดี ส่วนทางครอบครัวผู้ก่อเหตุตนก็ยังไม่เห็นมาร่วมงานหรือแสดงความเสียใจใดๆ ออกมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอย่างน้อยก็น่าจะเดินทางแสดงความเสียใจหรือขอโทษกับเหตุที่เกิดขึ้นก็ยังดี แต่ก็ไร้วี่แว่ว