เสี่ยแป้ง นาโหนดคือใคร เปิดประวัตินักโทษหนีการไล่ล่า
เสี่ยแป้ง นาโหนดคือใคร เปิดประวัตินักโทษหนีการไล่ล่า เจ้าหน้าที่มั่นใจกบดานฝั่งไทยพบรถยนต์จอดทิ้งชายแดนแค่แผนลวง
เสี่ยแป้ง นาโหนดคือใคร เปิดประวัติ นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ “เสี่ยแป้ง” ถ้าเอ่ยชื่อนี้ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะสายนักเลงและสร้างอิทธิพลจนหลายคนต้องเกรงกลัว ไม่ว่าชาวบ้านหรือเจ้าหน้าที่รัฐ โดยประวัติการก่อคดีที่โชกโชน เริ่มก่อคดีมาตั้งแต่ปี 2550 โดยคดีอุ้มฆ่าตำรวจ นปพ.สงขลา เหตุเกิดพื้นที่ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง ต่อมาได้ก่อคดีอย่างต่อเนื่องทั้งที่เป็นคดีและไม่เป็นคดีโดยลงมือเองและให้ลูกน้องลงมือ
พฤติกรรมที่บ่งชี้การสร้างรายได้หลักของ “แป้ง นาโหนด” คือมักจะทวงเงินจากธุรกิจผิดกฎหมาย อุ้มนักค้ายาเสพติดเรียกค่าไถ่ โดยเป็นที่รู้กันว่าทีมงานในการลงมือนั้นมักจะมีเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะเมื่อช่วงปี 2562 ถือเป็นช่วงที่มีการก่อเหตุมากที่สุดในพื้นที่จังหวัดพัทลุงอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เช่น คดีเหตุยิงกันบริเวณด้านหน้าสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาท่ามิหรำ โดยมีทีมงานลูกน้องคนสนิทจำนวน 3 คนเป็นคนก่อเหตุใช้รถยนต์กระบะยิงคู่อริอย่างอุกอาจ แม้เหตุการณ์ครั้งนั้นจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด โดยศาลตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
จากเหตุการณ์นั้น “เสี่ยแป้ง” ได้เก็บตัวเงียบไปพักหนึ่ง กระทั่งมีการสร้างทีมงานใหม่ ที่รอบนี้คนวงในเผยว่ามีความสนิทสนมนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เนื่องจากมีข้อมูลระบุว่า เสี่ยแป้งมีญาติเป็นนายตำรวจระดับผู้กำกับการในพื้นที่ด้วย อีกทั้งยังพบว่ามีความสนิทสนมและให้การดูแลนักการเมืองดังสงขลาที่มีดีกรีเป็นขาใหญ่ธุรกิจสีเทา ซึ่งในสมัยนั้นแทบไม่มีใครกล้าแตะ
อำนาจและอิทธิพลดังกล่าวทำให้เสี่ยแป้งเหิมเกริมถึงขั้นก่อเหตุปล้นชิงตัวผู้ต้องหาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 8 เมื่อปี 2562 และก่อคดีพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงพัทลุง
ขณะที่หน้าฉากนั้น “เสี่ยแป้ง” พยายามสร้างภาพที่ดีเร่งไต่เต้านำตัวเองเข้าสู่เส้นทางการเมืองท้องถิ่น และแน่นอนว่ามีแรงสนับสนุนจากนักการเมืองใหญ่เป็นทุน ทำให้ช่วงนั้นมักจะเห็นเสี่ยแป้งพบปะชาวบ้าน มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ยากไร้ผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ ต.ท่าแค และ ต.นาโหนด อ.เมือง จ.พัทลุง แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันถูกจับกุมตัวเสียก่อน และแม้จะถูกควบคุมตัวในเรือนจำพัทลุงเป็นเวลา 6 เดือนก็ตามแต่ก็ยังแผ่อำนาจในเรือนจำ เนื่องจากมีลูกน้องหลายคนอยู่ในเรือนจำด้วย
ครั้งหนึ่งพบว่ามีการยกพวกทำร้ายนักโทษในเรือนจำที่เป็นคู่อริคนสำคัญ “ฉุย รักษ์จันทร์” ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงตำรวจกองปราบเสียชีวิตจนทางเรือนจำต้องแยกเรือนจำ โดย “เสี่ยแป้ง”ถูกนำไปฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยระยะหลังมักจะอ้างว่าป่วย จนต้องออกมารักษาตัวหลายครั้ง
และที่สำคัญมีข้อมูลยืนยันว่าใน ช่วงที่มีการรักษาตัวก่อนหน้านี้มักจะมีเพื่อนฝูงและทีมงานแวะไปเยี่ยมอยู่เสมอ กระทั่งเมื่อ “เสี่ยแป้ง” ตัดสินใจหนีออกมาจากโรงพยาบาลวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเชิงลึกที่พบว่าในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้ พบเบาะแสว่ามีอดีตนักการเมืองพัทลุงคนหนึ่ง พร้อมด้วยตำรวจสังกัด สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเพื่อนได้มีการเปิดโรงแรมในตัวเมืองนครศรีธรรมราชด้วยซึ่งจะเกี่ยวข้องกันหรือไม่
อย่างไรก็ตามการไล่ล่า “เสี่ยแป้ง” อย่างต่อเนื่องท่ามกลางเบาะแสมากมาย ทั้งการพบยานพาหนะที่ระบุว่านำเสี่ยแป้งหลบหนีไปจอดที่ด่านพรมแดนทำให้มีการคาดการณ์ว่าน่าจะหลบไปออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านมาเลเซียนั้น
จากการสอบถามแหล่งข่าวตำรวจสืบสวนภาค 9 เชื่อว่ายังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศแน่ และเชื่อว่าหากมีการพบรถยนต์ที่บริเวณตะเข็บชายแดนอาจเป็นแผนของทีมงาน “เสี่ยแป้ง” ที่ต้องการลวงให้เจ้าหน้าที่หยุดการไล่ล่าชั่วคราว โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่า “เสี่ยแป้ง” ยังกบดานในพื้นที่ประเทศไทย