อัปเดต! เจ้าอาวาสถูกแก็งคอลเซ็นเตอร์ ตื๊อหลอกซ้ำ โอนที่ดินนนทบุรี

ความคืบหน้ากรณีที่พระเอกฉลวย จันชัง อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดป่ามั่นเจริญบัวธรรม อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ถูกมิจฉาชีพ แก็งคอลเซ็นเตอร์หลอกติดตั้งแอปพลิเคชัน จนสูญเงินในบัญชีวัดไปจำนวน 1.5 แสนบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่ต่อมาในวันที่ 20 ต.ค. 66 แก็งคอลเซ็นเตอร์ยังได้โทรศัพท์เข้ามาหาพระเอกฉลวย เจ้าอาวาสวัดอีกครั้ง

 โดยอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดินที่พระเอกฉลวยไปทำเรื่องรวบรวมโฉนดให้เปลี่ยนมาเป็นชื่อของวัดเป็นแปลงเดียวกัน ทำให้พระเอกฉลวยที่ถูกหลอกไปในครั้งแรกจำน้ำเสียงของมิจฉาชีพได้ จึงไม่เสียรู้เป็นครั้งที่สอง 

ก่อนตัดสินใจขอร้องความช่วยเหลือจากเพจกล้าที่จะก้าว ให้เข้ามาช่วยเหลือ เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้พระเอกฉลวยกลายเป็นคนวิตกกังวลในเวลาที่มีโทรศัพท์เข้ามาหาเนื่องจากไม่รู้ว่าโทรศัพท์ปลายทางที่โทรเข้ามาจะเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินตัวจริง จากการที่ไปติดต่อทำเรื่องไว้หรือจะเป็นมิจฉาชีพที่รู้ข้อมูลแล้วนำมาแอบอ้าง 

วันที่ 24 ต.ค. 66 เมื่อเวลา 10.30 น. พระเอกฉลวย จันชัง เจ้าอาวาสวัดป่ามั่นเจริญบัวธรรม พร้อมด้วยนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว ได้เดินทางมายังสำนักงานที่ดินสาขาอำเภอบางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากยื่นเอกสารเพื่อขอเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองที่ดินจากชื่อของพระอกฉลวยมาเป็นชื่อของวัดป่ามั่นเจริญบัวธรรมให้ถูกต้องตามกฎหมาย 

หลังจากยื่นเรื่องไปครบ 1 ปีกว่าแล้ว แต่เรื่องไม่มีความคืบหน้าจนกลายเป็นช่องโหว่ให้แก็งคอลเซ็นเตอร์ใช้เป็นข้อมูลมาหลอกติดตั้งแอพดูดเงินในบัญชีของทางวัดไป โดยทางสำนักงานที่ดินสาขาบางบัวทองได้มอบหมายให้นายอำนาจ ศรีสงค์ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนสำนักงานที่ดินบางบัวทอง เป็นผู้รับเรื่องและชี้แจงกับทางพระเอกฉลวยแทน

นายอำนาจ ศรีสงค์ หัวหน้าฝ่ายทะเบียนที่ดินบางบัวทอง กล่าวว่า เรื่องของการแจ้งเปลี่ยนชื่อโฉนดนั้นอยู่ในระหว่างการสอบถามความเห็นไปยังอำเภอบางบัวทองอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าวัดแห่งนี้สมควรจะทำเรื่องให้หรือไม่ ซึ่งเมื่ออำเภอมีหนังสือความคิดเห็นตอบกลับมาแล้ว ทางสำนักงานที่ดินบางบัวทองก็สามารถทำเรื่องส่งต่อให้ทางสำนักงานที่ดินจังหวัดทำเรื่องเสนอต่อให้ทางผู้ว่าราชดารจังหวัดนนทบุรีพิจารณาต่อได้ในทันที 

ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และเมื่อเรื่องถูกนำเสนอถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีให้พิจารณาแล้ว คาดว่าใช้เวลาตรวจสอบเอกสารต่างๆอีกไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็จะสามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้แล้วเสร็จ ซึ่งทางสำนักงานที่ดินบางบัวทองก็จะแจ้งให้มางวัดเข้ามาจดทะบียนจ่ายภาษีและทำเรื่องให้ถูกต้องต่อไป

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า เรื่องที่การแจ้งเปลี่ยนชื่อเกิดความล่าช้านั้น เป็นเพราะมีขั้นตอนในการตรวจสอบเรื่องนี้หลายหน่วยงานในพื้นที่เพื่อขอความคิดเห็นตอบกลับมา จึงเกิดความล่าช้าไปบ้าง ซึ่งเมื่อทางอำเภอบางบัวทองมีหนังสือตอบกลับแสดงความคิดเห็นมายังที่ดินบางบัวทองแล้ว ทางที่ดินบางบัวทองจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้กับทางวัดในทันที ซึ่งตามขั้นตอนแล้วจะใช้เวลาอีกไม่ 1 อาทิตย์ จึงจะสามารถเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองจากชื่อของเจ้าอาวาสเป็นชื่อของวัดได้

ทางด้านพระเอกฉลวย เจ้าอาวาสวัดป่ามั่นเจริญบัวธรรม กล่าวว่า ตอนนี้รู้สึกสบายใจมากขึ้น จะได้รับโทรศัพท์ได้อย่างไม่ต้องมาตะขิดตะขวงใจ ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว จากเดิมที่เคยเจอแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างตัวมาหลากหลายรูปแบบ แต่พอมาเจออ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน ทำให้เราต้องหยุดรับฟังโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องไม่จริง ที่นี่พอฟังไปฟังมาก็หลงกลถูกหลอกไป

แต่ในตอนนี้เมื่อทางสำนักงานที่ดินบางบัวทองยืนยันว่าจะเร่งรัดช่วยเหลือเรื่องนี้ให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์ อาตมาก็รู้สึกยินดีและสบายใจมากขึ้น รอมาเป็นปีแล้วยังรอได้แค่รออีกหนึ่งอาทิตย์อาตมาก็รอได้สบาย ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นเรื่องการเปลี่ยนชื่อโฉนดที่ดินจากชื่ออาตมาไปเป็นชื่อวัดแล้ว อาตมาก็คงไม่มีจุดอ่อนอะไรให้แก็งคอลเซ็นเตอร์มาแอบอ้างหลอกลวงได้อีก โทรมาก็ตัดสายทิ้งได้เลย อาตมาต้องขอบใจทั้งสื่อทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่หลังจากเป็นข่าวไปแล้วก็มีความช่วยเหลือต่าง ๆ เข้ามา

ทางนายอธิวัฒน์ สิริกังวาลวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางพร้อมหลวงพ่อเดินทางมายังสำนักงานที่ดินสาขาอำเภอบางบัวทอง เพื่อเร่งรัดเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับทางวัด ซึ่งคำตอบที่ได้รับจากนายทะเบียนสำนักงานที่ดินบางบัวทองในวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ที่เรื่องราวมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก ซึ่งตนพร้อมที่จะติดตามเรื่องนี้เพื่อช่วยเหลือทางวัดต่อไปตามที่สำนักงานที่ดินบางบัวทองรับปากว่าจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อในโฉนดที่ดินจากชื่อหลวงพ่อมาเป็นชื่อของทางวัดได้แล้วเสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์

 โดยตนจะติดตามเรื่องนี้จนกว่าเรื่องการเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองจะเสร็จสมบูรณ์เพื่อให้สมกับเจตนารมย์ของหลวงพ่อที่ต้องการยกโฉนดที่ดินให้เป็นของทางวัดอย่างถูกต้องเพื่อให้วัดได้เป็นวัดตามที่ตั้งใจ