'เบนซ์ เรซซิ่ง' เปิดใจครั้งแรกหลังพ้นคุก เสียใจไม่มีโอกาสสอนลูกเรียก พ่อ

'เบนซ์ เรซซิ่ง' เปิดใจครั้งแรกหลังพ้นคุก เสียใจไม่มีโอกาสสอนลูกเรียก พ่อ

"เบนซ์ เรซซิ่ง" เปิดใจครั้งแรกหลังพ้นคุก เสียใจไม่มีโอกาสสอนลูกเรียก พ่อ เผยจากนี้จะกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัว

จากกรณี ศาลฎีกายกฟ้อง นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ "เบนซ์ เรซซิ่ง" ข้อหาสมคบค้ายาเสพติด แต่ข้อหาฟอกเงิน จำคุก 3 ปี 4 เดือน ซึ่ง เบนซ์ เรซซิ่ง ติดคุกมาแล้ว 4 ปีเศษ ดังนั้น จะได้รับการปล่อยตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางในช่วงเย็นวันนี้ (24 ตุลาคม 2566)

โดย เบนซ์ ถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อเวลา 19.30 น. เดินออกมาจากเรือนจำพร้อมกับมารดาที่มารอรับ พร้อมสวมกอดมารดา หลังได้รับอิสรภาพ

"เบนซ์ เรซซิ่ง" ได้ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก ระบุว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปี ในการต่อสู้คดีนอกจากอิสรภาพที่จะต้องสูญเสียไปแล้ว ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่สูญเสีย อันดับแรก คือ เสียทั้งเวลา เงิน ในการต่อสู้คดี คนที่ต่อสู้คดีอยู่ด้วยความหวังว่าเราจะชนะคดี และยังต้องเสียเงินให้กับคนไม่หวังดี เสียชื่อเสียงเสียความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่มีข่าวว่าสมคบค้ายาเสพติดการที่จะคบค้าสมาคมกับใครทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ ไม่กล้าทำธุรกิจร่วมกันไม่อาจสามารถเปลี่ยนใจใครเหล่านั้นได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า "วันนี้ศาลฎีกายกฟ้องการสมคบค้ายาเสพติด ขอให้เคารพคำตัดสินประการสุดท้ายมีหน่วยงานไหนที่จะชดใช้ความสูญเสียไปได้หรือไม่ เพราะต้องสูญเสียโอกาสที่จะได้เลี้ยงดูลูกชายคนเดียวโดยที่ไม่มีโอกาสที่จะสอนลูกเดิน สอนลูกเรียกพ่อ สอนลูกปั่นจักรยาน ไม่เคยมีโอกาสที่จะสอนลูกเรียกพ่อได้ ในส่วนของคดีความขอให้จบสิ้นลงแค่นี้จะขอกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่"

เบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวว่า วันนี้ศาลก็ได้พิพากษาแล้ว ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การอยู่ในเรือนจำสำหรับตนเป็นการสูญเสียทุกสิ่งอันเป็นที่รักที่จะต้องมาใช้ชีวิตอย่างเวทนา คนที่สู้คดีอยู่กับความหวัง ไม่เหมือนคนที่รับสารภาพจะรู้ว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ แต่เราสู้คดีเราไม่รู้เลยว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่แต่ก็ต้องสู้จนถึงที่สุด ที่ผ่านมาไม่เคยให้ลูกชายมาเยี่ยมที่เรือนจำเลยเพราะไม่อยากให้ลูกชายมาจดจำในภาพที่ไม่ดีไม่อยากให้เขามาเห็นเพราะเค้าอยู่ในวัยที่จดจำ

 

หลังจากนี้อยากใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัว ยังไม่มีแผนการใช้ชีวิตเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันเหมือนเราได้ชีวิตใหม่ ต้องขอบคุณศาล มีความยุติธรรม เพราะการเดินทางไปฟังคำพิพากษาวันนี้ ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับหรือไม่ได้กลับแต่เราก็ต้องอยู่ด้วยความหวัง สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง การที่เรามีชีวิตอยู่ในเรือนจำเราไม่ได้ติดคุกแค่คนเดียวญาติพี่น้องก็เหมือนติดคุกไปกับเราด้วย การที่เราเข้ามาเหมือนกับติดคุกทั้งครอบครัว