4 ข้อสังเกต แผ่นเหล็กถนนทรุด สุขุมวิท 64/1 เผยชื่อเจ้าของสติกเกอร์ดาวอักษร B
เหตุแผ่นเหล็กถนนทรุด ถ.สุขุมวิท 64/1 ขาเข้า จนทำให้รถบรรทุกตกลงไปในหลุมและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตั้งข้อสังเกต 4 ข้อ พร้อมเปิดชื่อเจ้าของสติกเกอร์ดาวอักษร B จากเบาะแสที่ได้รับมา
จากเหตุการณ์แผ่นเหล็กถนนทรุดตัวบริเวณปากซอยถนนสุขุมวิท 64/1 ขาเข้า ซึ่งเป็นโครงการนำเอาสายไฟฟ้าลงดินของกาไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จนทำให้รถบรรทุกตกลงหลุมและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย กระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเจ้าหน้าที่ได้นำรถเครน 2 คัน พร้อมกับใช้สลิงดึงรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุขึ้นมาจากบ่อหลุมความยาวประมาณ 5 เมตร ความกว้าง 3 ช่องจราจร
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีการตั้งข้อสงสัยและเกิดคำถามเกิดขึ้นว่า รถบรรทุกคันน้ำหนักเกินหรือไม่ และมีการตั้งข้อสังเกตเห็นสติกเกอร์ปริศนารูปดาว ตัวอักษร B นำไปสู่การตั้งคำถามเรื่องความเกี่ยวข้องกับเรื่องส่วยสติกเกอร์ และมีการนำดินที่อยู่ท้ายกระบะบรรทุกไปทิ้งและไม่ยอมให้มีการชั่งน้ำหนักด้วยนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ สส.พรรคก้าวไกล เขตพระโขนง-บางนา เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับทวงถามต่อ พ.ต.ท.ประกอบ อินทร์เกตุ รอง ผกก.จร.สน.พระโขนง เรื่องกรณีรถบรรทุกสิบล้อคันเกิดเหตุ มีการถ่ายเทดินออกจากท้ายรถ โดยสงสัยว่ามีการบรรทุกน้ำหนักเกิน และอาจเป็นเครือข่ายส่วยสติกเกอร์ทางหลวง
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนมีคำถามเรื่องตำรวจปล่อยให้มีการยุ่งกับวัตถุพยานหลักฐานได้อย่างไร ซึ่งหลักฐานตรงนี้สามารถทำให้พิสูจน์ได้ว่า รถบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ แล้วตำรวจได้ดู ป.วิอาญา หรือไม่
ด้าน พ.ต.ท.ประกอบ ชี้แจงว่า ขั้นตอนในช่วงการตักดินนั้นมีคนอยู่จำนวนมาก รวมถึงสื่อมวลชน ทำให้ไม่มีใครสามารถปิดบังได้ โดยเป็นจังหวะที่กำลังชุลมุน ทางรถบรรทุกได้มีการเลี้ยวรถหลบเข้าไปและถ่ายเทดิน ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการตรวจสอบต่อไปว่า นำดินไปทิ้งตรงไหนอย่างไร จึงขอทำการตรวจสอบ และรายงานผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นต่อไป
ตนนั้นมาดูแลปัญหาการจราจร และแก้ปัญหาจุดนี้ให้เร็วที่สุด ซึ่งขณะที่มีการตักดิน ตนไม่ได้เฝ้าอยู่ตลอดเวลา รวมถึงยังไม่ทราบว่า มีอะไรผิดพลาดบ้าง เนื่องจากมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เขต ช่วยกันเฝ้าดู ทั้งการจราจร และประชาชนที่ผ่านไปมา รวมไปถึงของกลาง โดยทางเขตมีการเรียกตำรวจทางหลวง ซึ่งรับผิดชอบงานตราชั่ง มาเพื่อรอไว้แล้ว ทำให้ทางด้าน นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ต้องมีการรายงาน ในสำนวนด้วยว่า มีการตักดินไปทิ้ง และจะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้รับผิดชอบ
นายวิโรจน์ ยังได้กล่าวด้วยว่า ต้องคำนวณทางวิศวกรรมได้ว่า มีการทิ้งดินไปกี่คันรถ และสามารถคำนวณกลับมาเป็นน้ำหนักของดินได้ด้วย และสามารถคำนวณเป็นวิศวกรรมได้ด้วยว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ ฉะนั้นขอให้ตำรวจต้องเก็บให้ครบทุกประเด็น หากละเลยหลบเลี่ยงหรือไม่พบประเด็นเหล่านี้ ในการสืบสวนสอบสวนถือว่าต้องมีคนรับผิดชอบ กรณีสติกเกอร์ส่วย ในเรื่องของภาพสัญลักษณ์สติกเกอร์ดาวสีเขียว ที่ติดหน้ารถบรรทุกคันเกิดเหตุ ต้องมีการสอบสวนด้วย โดยให้ฝากไปถามที่ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.รอง ผบช.ก. ดูว่า สติกเกอร์ดาวสีเขียวนี้ ส่งส่วยไปถึงใครบ้าง
ต่อมา เฟซบุ๊กของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็ได้มีการเคลื่อนไหว กรณีเหตุการณ์ถนนทรุดตัวที่บริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 ซึ่งเป็นโครงการนำเอาสายไฟฟ้าลงดินของกาไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) กับสติกเกอร์รูปดาวอักษรตัว B สีเขียว พร้อมขอเสนอแนะให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้ามากำกับดูแล การสืบสวนสอบสวนในกรณีนี้อย่างใกล้ชิด
ผมและ สส.ปิยรัฐ และ สก.สราวุธ (หนุ่ม) ได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้ประสานให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ทราบถึงข้อสังเกต แล้วดังต่อไปนี้
1) เจ้าหน้าที่ ตร. ปล่อยให้มีการขนถ่ายดินจากรถที่ประสบเหตุออกไปได้อย่างไร โดยดินได้ถูกขนถ่ายไปยังรถสิบล้อ 2 คัน คันหนึ่ง ตำรวจปล่อยให้เอาดินไปเทที่ไซต์งานในซอยสุขุมวิท 64/2 อีกคันหนึ่งถูกสกัดเอาไว้ได้ทัน จึงถูกกักเอาไว้บริเวณหน้าปากซอยสุขุมวิท 64/2
การกระทำดังกล่าว ต้องพิจารณว่าเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้มีการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับของกลาง พยานวัตถุ หรือทำลายหลักฐานหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิด ป.วิอาญา เสียเอง หรือเปล่า ในประเด็นกังกล่าวนี้ พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับ สน.พระโขนง และ พล.ต.ต.ธวัธเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ต้องสืบสวนข้อเท็จจริง จะวางเฉยไม่ได้
2) สภาพของรถบรรทุก และดินที่บรรทุกอยู่บนรถ เป็นพยานวัตถุที่สำคัญมาก ที่จะพิสูจน์ได้ว่า มีการบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่ เบื้องต้นผม โตโต้ และสราวุธ ได้ประสานขอเข้าไปดูที่ไซต์งานในซอยสุขุมวิท 64/2 แล้ว พบว่าดินที่ถูกนำมาเท ในไซต์ก่อสร้าง วิศวกรยังแยกกองเอาไว้ต่างหาก มีการคลุมผ้าใบกันฝนเป็นอย่างดี เพื่อความเป็นธรรม
ผมเสนอว่า ควรจะนำเอากองดินดังกล่าว ตลอดจนกองดินที่อยู่บนรถบรรทุกอีกคันหนึ่ง มาเทกองบนรถบรรทุกคันที่เกิดเหตุ แล้วชั่งน้ำหนักต่อหน้าพยานในคืนนี้เลย ก็จะทราบโดยสิ้นข้อสงสัยว่า รถบรรทุกคันที่ประสบเหตุบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัด 25 ตันหรือไม่ ส่วนในประเด็นของสภาพช่วงล่าง ของรถสิบล้อคันที่เกิดเหตุ ก็ให้เชิญวิศวกรผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ ก็จะทราบโดยไม่ยากเช่นกันว่า มีการดัดแปลงช่วงล่าง เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกินหรือเปล่า
3. สติกเกอร์ ดาวบีสีเขียว เบื้องต้นมีเบาะแสว่าอาจจะย่อมาจาก "เสี่ยบิ๊ก" เจ้าหน้าที่ตำรวจ จำเป็นต้องสืบสวนสอบสวน ว่าเสี่ยบิ๊กเป็นใคร มีตัวตนหรือไม่ เกี่ยวข้องกับการจ่ายส่วยหรือไม่อย่างไร ถ้ามีการจ่ายส่วย มีการส่งส่วย ถึงนายตำรวจ และข้าราชการคนไหน ระดับใด
ข้ออ้างที่บอกว่า เป็นการติดสติกเกอร์ เพื่อความสวยงาม หรือเพื่อบังแดด ก็ฟังไม่ขึ้น จะติดเป็นรหัสรถบรรทุก ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ควรต้องมีตัวเลขลำดับกำกับ เช่น B01, B02, B03, ... เป็นต้น แต่นี่ทั้ง 3 คัน เป็นสติ๊กเกอร์ ดาวบีสีเขียวเหมือนกัน จึงไม่น่าจะใช่รหัสรถบรรทุกแน่ๆ
4. สำหรับรถแท็กซี่สีชมพูที่ได้รับความเสียหาย เบื้องต้นผมได้ขอให้ผู้หน่วยงานเขตพระโขนง ช่วยประสานงานต่อไปยัง กฟน. เพื่อพิจารณาชดเชยเยียวยา ผู้ขับขี่ และเจ้าของรถแท็กซี่คันสีชมพู อย่างเร่งด่วนแล้ว จะปล่อยให้ ผู้ขับขี่และเจ้าของรถแท็กซี่ รอคอยอย่างเคว้งคว้างไม่ได้ ถ้าพบว่ารถบรรทุกบรรทุกน้ำหนักเกิน กฟน. ก็ค่อยไปไล่เบี้ยจากเจ้าของรถบรรทุกในภายหลัง แต่เบื้องต้น กฟน. ในฐานะเจ้าของโครงการ ต้องเยียวยาผู้ขับขี่ และเจ้าของรถแท็กซี่ก่อน
กรณีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ไม่ต้องบอก พ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับ สน.พระโขนง และ พล.ต.ต.ธวัธเกียรติ จินดาควรสนอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของตำรวจ มากขนาดไหน มีตำรวจต้องเสียชีวิตถึง 2 คน นั่นก็คือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว (สารวัตรแบงค์) และ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ (ผู้กำกับเบิ้ม)
ผมขอเสนอแนะให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้ามากำกับดูแล การสืบสวนสอบสวนในกรณีนี้อย่างใกล้ชิด และในกรณีที่พบเบาะแสของการเรียกรับผลประโยชน์ หรือเรียกเก็บส่วย ก็ควรประสานไปยัง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสนธิกำลังกันกวาดล้าง ขบวนการส่วยสติกเกอร์ ให้สิ้นซาก ไม่ควรปล่อยให้เหลือบไรในคราบสีกากี คอยบ่อนทำลายเกียรติยศศักดิ์ศรีของตำรวจไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นแบบนี้