สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 พ.ย. 66

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 พ.ย. 66

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 พ.ย. 66 ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบาง และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 64,150 ล้าน ลบ.ม. (78%)

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) สรุปสถานการณ์น้ำ ภาพรวมของประเทศ วันที่ 14 พ.ย. 66 โดย สภาพอากาศวันนี้ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็นในตอนเช้าและมีฝนเล็กน้อย ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง 

คาดการณ์ วันที่ 15 พ.ย. 66 ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 16 – 19 พ.ย. 66 ความกดอากาศสูงจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ปริมาณน้ำรวมทั้งประเทศ ณ วันที่ 13.พ.ย. 66 น้อยกว่า ปี 2565 จำนวน 3,833 ล้าน ลบ.ม. สรุปได้ดังนี้

  • ปริมาณน้ำทั้งประเทศ 64,150 ล้าน ลบ.ม. (78%)
  • ปริมาณน้ำใช้การ 39,982 ล้าน ลบ.ม. (69%) 

การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่

ระดับน้ำเกินระดับควบคุมสูงสูด 10 แห่ง

  • ภาคเหนือ : กิ่วลม แม่งัดสมบูรณ์ชล กิ่วคอหมา แม่มอก แควน้อยบำรุงแดนและบึงบอระเพ็ด
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : อุบลรัตน์ และลำปาว
  • ภาคกลาง : ป่าสักชลสิทธิ์
  • ภาคตะวันออก : ขุนด่านปราการชล

ระดับน้ำเกินระดับควบคุมต่ำสุด 5 แห่ง

  • ภาคเหนือ: สิริกิติ์ และทับเสลา
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: หนองหาร
  • ภาคกลาง : กระเสียว
  • ภาคตะวันออก : คลองสียัด 

โดยขอให้หน่วยงานดำเนินการ 1) วางแผนการระบายน้ำโดยจัดลำดับความสำคัญตามที่คณะกรรมการลุ่มน้ำกำหนด  2) ประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับเกษตรกรและขอความร่วมมือให้เกษตรกรงดการปลูกข้าวนาปีต่อเนื่อง และ  3) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ โดยการใช้น้ำภาคการเกษตรให้ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืช เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำและเพิ่มรายได้ในพื้นที่

คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี 

ประกาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2566 ลงวันที่ 12 พ.ย. 66 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 14 – 18 พฤศจิกายน 2566 ดังนี้

เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา

เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.ระนอง และสุราษฎร์ธานี และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกัก ที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ เตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ 

สทนช. ติดตามความก้าวหน้า การจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำสาละวิน 

วานนี้ (13 พ.ย. 66) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ติดตามความก้าวหน้า โครงการจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำสาละวิน พร้อมกับติดตามพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และสถานการณ์น้ำ อ่างเก็บน้ำแม่สอด เพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ บรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งให้กับประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำสาละวิน ประกอบด้วยพื้นที่ 3 จังหวัด ส่วนใหญ่มีพื้นที่อยู่ในเขต จ.แม่ฮ่องสอน และบางส่วนของ จ.ตาก และ เชียงใหม่ ลักษณะของลุ่มน้ำวางตัวตามแนวทิศเหนือ-ใต้ หากโครงการจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำสาละวินแล้วเสร็จ จะสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบทั้งฤดูน้ำหลากและฤดูแล้งอย่างมีประสิทธิภาพ

สถานการณ์น้ำท่า

  • สถานการณ์น้ำท่าประเทศไทย 

สถานการณ์น้ำส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง ยกเว้น บริเวณภาคใต้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น   

  • สถานการณ์น้ำท่าแม่น้ำโขง 

คาดการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขงในช่วง 5 วันข้างหน้าพบว่า แนวโน้มลดลง 5 สถานี คือ สถานีเชียงคาน หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และโขงเจียม แนวโน้มทรงตัว 1 สถานี คือ สถานีเชียงแสน

กรมชลประทาน ระดมบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือ รับมือสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ภาคใต้ หลังสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประกาศแจ้งให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดยผลจากการประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ด้วยฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบพื้นที่เสี่ยงบริเวณภาคใต้ ต้องเฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 14 – 18 พ.ย. 66