ไฟไหม้อาคารพาณิชย์กลางเมืองเชียงใหม่ เผาวอด 10 คูหา คาดต้นเหตุมาจากโคมลอย
คืบหน้า ไฟไหม้อาคารพาณิชย์ ย่านตลาดวโรรส จ.เชียงใหม่ ล่าสุดคุมสถานการณ์ได้แล้ว เผาวอด 10 คูหา เสียหายนับ 10 ล้านบาท คาดสาเหตุเกิดจากนทท.ปล่อยโคมลอยคืนวันลอยกระทง
ความคืบหน้ากรณีที่เมื่อช่วงตี 3 ที่ผ่านมา เกิดเหตุ"ไฟไหม้อาคารพาณิชย์" ตลาดวโรรส ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ หลังศาลเจ้าปุงเฉากง หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครเชียงใหม่มีการระดมรถดับเพลิงกว่า 20 คัน อาสาสมัครกว่า 50 คน โดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ล่าสุดช่วงสายวันนี้ (28 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าของการควบคุมเพลิงพบว่า ทางเจ้าที่ยังคงตรึงกำลังรถดับเพลิงและกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเอาไว้ เนื่องจากภายในตัวอาคารมีเชื้อเพลิงอยู่เป็นจำนวนมาก และยังคงมีความร้อนสะสมซึ่งสามารถจะติดไฟได้ในทุกเมื่อ โดยทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังอยู่ระหว่างการเข้าเคลียร์ในแต่ละชั้น ซึ่งข้าวของภายในอาคารแต่ละคูหาก็มีจำนวนเยอะมาก ทั้งผ้า กระดาษ คาดว่าช่วงก่อนเที่ยงวันนี้เหตุการณ์น่าจะสงบ
นายวัชรชัย เจ้าของร้านโต๋กวงฮวด เปิดเผยว่า ร้านของตนนั้นเป็นร้านขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป ทั้งเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง ก่อนที่จะปิดร้านเมื่อวานนี้นั้นทุกอย่างก็ดูปกติ โดยเฉพาะระบบไฟของร้านก็มีการตรวจเช็คอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดเพลิงไหม้ได้อย่างไร และก็อาจเป็นไปได้ที่สาเหตุเกิดจากโคมลอย เนื่องจากบริเวณจุดที่ประชาชนนักท่องเที่ยวพากันมาปล่อยโคมลอยกันในตอนกลางคืนวันลอยกระทง ก็อยู่ตรงสะพานแก้วนวรัฐ ซึ่งอยู่ห่างจากร้านตนไปเพียง 200-300 เมตรเท่านั้น
ขณะที่การลงพื้นที่สอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ พบว่ามีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายทั้งหมด 9 คูหา และมีอาคารที่ปลูกสร้างอยู่ด้านหลังอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายอีก 1 หลัง หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป
ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นคาดว่าน่าจะอยู่ในหลักหลายสิบล้านบาท เนื่องจากแต่ละคูหาก็มีทรัพย์สินอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก บางคูหาก็ให้ข้อมูลว่ามีทรัพย์สินอยู่มากถึงหลักสิบล้านบาท ซึ่งหลังจากเหตุการณ์สงบคลี่คลายแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้มีการประเมินมูลค่าความเสียหายที่แน่ชัดอีกครั้ง
โดย ธนกร วงศ์นาง จ.เชียงใหม่