แม่เลี้ยงเดี่ยวช้ำ! เสิร์ชหางานแต่เจอมิจฉาชีพหลอกร่วมลงทุน สูญเงิน 1.4 แสน
แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดช้ำ! เสิร์ชหางานแต่เจอ 'มิจฉาชีพ' หลอกร่วมลงทุนออนไลน์ หลงเชื่อโอนเงินให้สูญเงินเก็บก้อนสุดท้ายกว่า 1.4 แสนบาท
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาว ต.พระครู อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ได้รับผลกระทบจากพิษโควิดตกงานมาเกือบ 2 ปี แถมต้องดูแลยายวัยกว่า 80 ปีที่ป่วยโรคชรา และเลี้ยงลูกวัย 13 ปี ได้นำหลักฐานการแชทสนทนากับแก๊งมิจฉาชีพผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ และสลิปการโอนเงิน มาร้องขอความช่วยเหลือและเตือนภัย
หลังจากที่ น.ส.บี เสิร์ชหางานออนไลน์ในกูเกิลเพื่อหวังหารายได้เลี้ยงลูกและดูแลยาย กระทั่งไปเจอเว็บหนึ่งขึ้นข้อความว่า งานออนไลน์รายได้ดี วันที่ 22 พ.ย.66 จึงกดเข้าไปดูก็ขึ้นมาให้แอดไลน์ จากนั้นก็มีแอดมินทักเข้ามาสนทนาทางไลน์โดยแนะนำว่าเป็นการร่วมลงทุนประกันสินค้าออนไลน์ จะได้ผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นตามเหรดวงเงินที่ร่วมลงทุน จึงลองโอนเงินไปร่วมลงทุน 175 บาท ก็ได้ผลตอบแทนจริงรวมเป็นเงิน 270 บาท และพอลองถอนเงินออกมาก็ถอนได้จริง
จากนั้นแอดมินก็ทักกลับมาถามว่า เข้าใจหรือยัง? ถ้าเข้าใจและต้องการเริ่มงานให้ กด 9 ตนก็กดเข้าไปตามที่เขาบอก จึงลองร่วมลงทุนเพิ่มครั้งที่สอง วงเงิน 1,399 บาท จากนั้นเขาก็ดึงเข้ากลุ่มหลอกว่าจะมีคนอื่นเข้ามาร่วมลงทุนด้วย แล้วก็ให้เลือกเหรดร่วมลงทุน หากลงเยอะก็จะได้ผลตอบแทบเยอะ ตนจึงตัดสินใจโอนไปครั้งที่สาม 6,999 บาท เขาก็โน้มน้าวอีกว่าถ้าไม่ลงทุนเพิ่มเหมือนคนอื่นก็จะถอนเงินไม่ได้ ตนจึงได้โอนไปอีกครั้งที่สี่ จำนวนเงิน 60,999 บาท ซึ่งทั้ง 4 ครั้งปลายทางเป็นชื่อบัญชีของผู้หญิงคนหนึ่ง
จากนั้นตนก็โอนครั้งที่ห้า 70,000 บาท ปลายทางเป็นบัญชีผู้ชาย และจากนั้นก็ถูกบล็อกช่องทางติดต่อและปิดกลุ่มไลน์ ตนจึงมารู้ว่าถูกหลอก รวมสูญเงินไปทั้งสิ้นกว่า 140,000 บาท ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นเงินที่เหลือก้อนสุดท้ายเอาไว้ใช้เลี้ยงลูกและใช้จ่ายในครอบครัว พอรู้ว่าถูกหลอกก็เครียดมากนอนร้องไห้ จากนั้นวันที่ 22 พ.ย.66 จึงได้นำหลักฐานไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงมาดำเนินคดีตามกฎหมายและนำเงินมาคืนด้วย
น.ส.บี บอกต่ออีกว่า ที่หลงเชื่อเพราะเขามีการส่งชื่อบริษัท เลขจดทะเบียนบริษัทมาให้ดู ทั้งยังสร้างตัวละครว่ามีคนอื่นร่วมลงทุนด้วย แต่คงเป็นหน้าม้าเพื่อหลอกล่อให้หลงเชื่อ ส่วนบัญชีที่โอนไปก็คงเป็นบัญชีม้า ตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายเลี้ยงลูกและดูแลยาย เพราะเงินก้อนสุดท้ายก็ถูกมิจฉาชีพหลอกไปจนเกลี้ยง แถมตอนนี้ยังตกงานอีกและยังมีหนี้สินที่เคยกู้มาใช้จ่ายก่อนหน้านี้อีกกว่า 2 แสนบาทด้วย ตอนนี้ก็ไม่รู้จะเอาเงินจากไหนไปใช้หนี้ ก็อยากฝากเตือนภัยกับคนที่คิดจะหางานออนไลน์ว่า อย่าไปหลงเชื่ออาจจะถูกหลอกสูญเสียเงินเหมือนตนได้
ข่าว สุรชัย พิรักษา จ.บุรีรัมย์