อัปเดต! 'สมรักษ์' พบตร. ปัดทุกข้อหา ยันไม่รู้สาวอายุแค่ 17 พาเด็กเข้าโรงแรม

อัปเดตต่อเนื่องกรณีข่าวดัง สมรักษ์ คำสิงห์ งานเข้าหิ้วน้อง 17 เข้าโรงแรม หรือ สมรักษ์พาเด็ก 17 เข้าโรงแรม หรือไม่อย่างไร มีความคืบหน้าล่าสุด

“สมรักษ์ คำสิงห์” เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กลางดึก หลังถูกแจ้ง 4 ข้อหา เจ้าตัวไหว้ขอโทษพี่น้องชาวไทยและชาวขอนแก่น ที่ทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อน ยืนยันไม่ทราบว่าหญิงสาวคู่กรณีมีอายุ 17 ปี หากทราบก่อนเรื่องคงไม่เกิด โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกมวยเหรียญทองโอลิมปิก แอตแลนต้าเกมส์ ซึ่งถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แจ้งความดำเนินคดีในข้อหากระทำอนาจาร เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ปากคำและเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เข้าเก็บตัวอย่างดีเอ็น เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนทางคดี

หลังเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (13 ธ.ค.) คณะพนักงานสอบสวน ได้มีมติแจ้งข้อหา 4 ข้อกล่าวหา คือ

1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากผู้ปกครอง

 2.ร่วมกันพาบุคคลอายุต่ำกว่า 15 แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร

3.กระทำอนาจารกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยใช้กำลังประทุสร้าย

4.พยายามข่มขืนผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุสร้าย

นายสมรักษ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการให้ปากคำว่า โดยได้ยกมือไหว้ขอโทษพี่น้องชาวไทย และชาวจังหวัดขอนแก่น ที่ทำให้เกิดเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา ปัญหาที่เกิดก็คือว่าตนเองไม่ทราบจริงๆว่า ผู้เสียหายนั้นมีอายุ 17 ปี ถ้าหากตนเองทราบคงไม่มีเรื่องเกิดขึ้น แต่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วต้องตั้งสติหาทางแก้ไข และต้องขอโทษครอบครัวตนเอง รวมทั้งครอบครัวของน้องเขาด้วย

ตนเองเข้าใจความรู้สึกของทุกคน ไม่อยากให้เรื่องมันเกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วตนเองก็พร้อมที่จะแก้ไข และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

จากนั้นนายสมรักษ์และทีมงานก็ได้เดินขึ้นรถยนต์ขับออกจาก ภ.จว.ขอนแก่น ไป

ด้าน พ.ต.ท.ศุภฤกษ์ สุวรรณราช รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในวันนี้ นายสมรักษ์ คำสิงห์ ผู้ต้องหาที่1 ได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยหลังจากนี้พนักงานสอบสวนได้ให้เวลา 15 วัน เพื่อที่จะไปเขียนคำให้การเพื่อแก้ข้อกล่าวหา

ซึ่งตลอดเวลาที่ได้มีการสอบปากนายสมรักษ์ ไม่มีอาการเครียดแต่อย่างใด แต่ก็มีความกังวลถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่เกิดจากความผิดพลาด ซึ่งวันนี้นายสมรักษ์ ได้ประสงค์ที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวน จึงเห็นว่านายสมรักษ์ ไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จึงไม่ได้มีการควบคุมตัว และเตรียมจะไปปรึกษาทนายความ เพราะที่มาเข้ามอบตัวในวันนี้ ไม่มีทนายความมาร่วมด้วย ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 ที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์พานายสมรักษ์ไปในวันเกิดเหตุ และผู้เสียหายไปโรงแรมจะมีการออกหมายเรียก

กลุ่มเพื่อนสาว 17 รู้จักกันวันแรกก็เกิดเรื่อง

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวบี และนางสาวซี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เพื่อนของหญิงสาว 17 ปี คู่กรณีสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศและกระทำการอนาจารภายในโรงแรมหลังกลับจากสถานบันเทิง

โดยทั้งสองคนนั้น เป็นเพื่อนที่ไปเที่ยวกับนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปีคู่กรณีของสมรักษ์ และปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด ช่วงที่ยืนรออยู่ข้างสถานบันเทิง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ก่อนที่นางสาวเอจะเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของสมรักษ์ แล้วขับซ้อนสามกันออกจากร้านไป กระทั่งนางสาวเอเข้าแจ้งความ ออกมาไลฟ์สดผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย

โดยทั้งคู่บอกจุดประสงค์เพื่อปกป้องสิทธิ์ของตัวเอง ในพื้นที่ของตัวเอง โดยจะไม่พูดเกี่ยวกับทางคดีของนางสาวเอกกับอดีตนักมวย ซึ่งจุดประสงค์หลักที่ออกมาพูดนั้นเพราะถูกนำภาพไปโพสต์ไปแชร์ในโซเชียล ว่าตัวเองเป็นนางสาวเอ จนทำให้คนเข้าใจผิดและนำภาพไปโพสต์จนเกิดความเสียหาย

นางสาวบี และนางสาวซี (นามสมมติ) พูดในไลฟ์สดว่า ตอนนี้ถูกสังคมด่าว่าทอดทิ้งเพื่อน ไม่ช่วยเพื่อน ไม่รักเพื่อน ไม่ห้ามเพื่อน ซึ่งตนเองขออธิบายให้ฟังว่าในวันเกิดเหตุนั้น เพิ่งรู้จักกับ นางสาวเอ เป็นวันแรก โดยเป็นเพื่อนของเพื่อนในกลุ่ม และเป็นคนบ้านเดียวกันกับนางสาวเอ ได้ชักชวนมาเที่ยวด้วย

โดยตนเองทั้งสองคน ไม่รู้จักและไม่ไม่รู้เรื่องมาก่อนและไม่ได้ชวนมาเที่ยวด้วยแต่อย่างใด ในช่วงที่กินกันภายในร้านอยู่โต๊ะเที่ยวกัน 4 คน ซึ่งทุกคนก็สังสรรค์ ดื่มกินกันตามปกติ ก่อนที่พวกตนจะไปเข้าห้องน้ำ แล้วเดินกลับมาก็พบว่านางสาวเอ อยู่ที่โต๊ะของสมรักษ์แล้ว จึงเข้าไปสอบถามว่าทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ แต่นางสาวเอไม่ตอบ ตนเองจึงพากันกลับไปที่โต๊ะ กระทั่งร้านปิดพากันไปยืนอยู่ที่หน้าร้าน

ซึ่งตนเองเป็นคนที่เดินไปถามนางสาวเอว่าจะไปกับเขาจริงๆเหรอ และยังมีเพื่อนผู้ชายที่อาสาจะไปส่งนางสาวเอกลับห้องพัก โดยพาซ้อนกลับไปกับเพื่อนคนอื่นๆ ด้วย แต่นางสาวเอชักสีหน้าไม่พอใจ เพราะต้องการจะไปกับสมรักษ์ ซึ่งที่บอกว่าพวกตนไม่ห้ามเพื่อนไม่ช่วยเพื่อนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงทุกคนแม้ว่ารู้จักกันวันแรกแต่ก็ชวนกลับ ชวนไปส่ง แต่เจ้าตัวไม่พอใจที่ไม่ได้ไปกับสมรักษ์

จึงเห็นเจ้าตัวเดินไปหาสมรักษ์แล้วขับรถจักรยานยนต์ซ้อนสามออกไปด้วยกัน ซึ่งทุกคนก็งงกันหมด และทุกคนก็เมา ก่อนจะพากันแยกย้ายกลับ ก่อนที่เพื่อนผู้ชายที่รู้จักกับนางสาวเอ ส่งข้อความแชทมาถามตนเองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมนางสาวเอให้พาเข้าแจ้งความ ซึ่งตนเองก็ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร หรือเกิดอะไรขึ้น โดยทุกคนก็งงกันหมดเช่นกัน

ในไลฟ์สดนางสาวบีและนางสาวซี ยังบอกอีกว่า ตนเองทั้งสองคนยืนยันอีกครั้งว่า เพิ่งรู้จักกันกับนางสาวเอวันแรก และช่วงที่เข้าผับนั้นก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะเข้าได้ไม่ได้แต่ทุกคนก็เข้ามาในร้านได้และเที่ยวกันตามปกติ

และพวกตนก็ไม่ได้อายุ 17 ปี โดยในไลฟ์สดทั้งคู่ไม่ได้บอกอายุตัวเอง พร้อมกันนี้ยังบอกอีกว่า ขอให้ทุกคนที่นำภาพของพวกเราไปโพสต์ไปแชร์จนเกิดความเสียหาย ขอให้ลบและหยุดโพสต์หยุดแชร์ หากไม่หยุดก็จะดำเนินการตามกฏหมาย

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องดังกล่าวนั้น ทางตำรวจจะมีการออกหมายเรียกอดีตนักมวยและคนสนิทที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์มาส่งที่โรงแรม มารับทราบข้อกล่าวหา และดำเนินการตามขั้นขั้นตอน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกมวย เหรียญทองโอลิมปิก แอตแลนต้าเกมส์ พร้อมพวก ในข้อหา กระทำอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมทีมสหวิชาชีพ ที่ประกอบด้วยอัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และพนักงานอัยการ ได้เข้าทำการสอบปากคำ น.ส.เอ วัย 17 ปี ที่สำนักงานอัยการภาค 4 อย่างเป็นทางการ

หลังแพทย์ลงความเห็นว่า น.ส.เอ พร้อมที่จะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่แล้ว โดยได้พาตัวมาสอบปากคำตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น. ก่อนที่การสอบปากคำจะเสร็จสิ้นลงในเวลาประมาณ 11.00 น.

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ร่วมในการสอบปากคำว่า ในช่วงของการสอบปากคำ น.ส.เอ อยู่ใน อาการเครียด และร้องไห้บางช่วงของการสอบปากคำ ซึ่งในภาพรวมของการสอบปากคำ น.ส.เอ ให้การว่า ได้ถูกนายสมรักษ์ กระทำอนาจารบนห้องพักในแรมแห่งหนึ่งจริง

ส่วนในประเด็นที่ว่า เหตุใด น.ส.เอ จึงไม่มีท่าทีขัดขืนตั้งแต่ช่วงที่ออกจากสถานบริการ น.ส.เอ ให้การว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น และที่ไม่ขัดขืนก็เพราะเห็นว่านายสมรักษ์ เป็น นักมวย จึงไม่กล้าขัดขืน หลังจากการสอบสวนปากคำ น.ส.เอ เสร็จสิ้น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับนายสมรักษ์

3 กล่าวข้อหา สมรักษ์ คำสิงห์ พาเด็ก 17 เข้าโรงแรม

1.พรากผู้เยาว์ อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร

2.พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด

3.กระทำอนาจาร

ส่วนผลการตรวจร่างกายของ น.ส.เอ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวไปตรวจร่างกาย ที่ รพ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผลการตรวจอย่างเป็นทางการจะส่งมายังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.66) โดยหลังจากนั้น พนักงานสอบสวน จะมีการประสานไปยังนายสมรักษ์ ให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ทั้งนี้ ช่วงเช้าวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณหน้าสำนักงานอัยการภาค4 ถนนกลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังมีรายงานข่าวระบุว่า วันนี้เวลาประมาณ 09.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมทีมสหวิชาชีพ

ที่ประกอบด้วยอัยการ นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ จะเข้าทำการสอบปากคำ น.ส.เอ วัย 17 ปี ที่สำนักงานอัยการภาค 4 หลังแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหานายสมรักษ์ คำสิงห์ ว่าถูกพาไปกระทำอนาจาร ซึ่งบรรยากาศบริเวณด้านหน้า พบว่า มีสื่อมวลชนจากหลายสำนักมารอดูความเคลื่อนไหว ซึ่งไม่สามารถเข้าไปภายในสำนักงานอัยการได้

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ในสำนักงานอัยการภาค 4 ว่า การสอบปากคำ น.ส.เอ จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนและทีมสหวิชาชีพ ได้มีหนังสือส่งมายังสำนักงานอัยการจังหวัด แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดไปมากกว่านี้

ขณะที่ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถพาตัว น.ส.เอ มาสอบปากคำกับทีมสหวิชาชีพได้ เพราะต้องรอผลการตรวจสภาพจิตใจว่ามีความพร้อมหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้ทีมแพทย์เป็นผู้ลงความเห็นว่า น.ส.เอ พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำอย่างเป็นทางการต่อหน้าทีมสหวิชาชีพแล้วหรือไม่ หากแพทย์มีผลการตรวจสภาพจิตใจออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว จึงจะนำ น.ส.เอ มาสอบปาก คาดว่ากระบวนการสอบปากคำจะสามารถทำได้ภายใน 1-2 วันนี้

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม 2566 พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่นร่วมกับ นายจักรพันธ์ เอื้องสัจจะ ปลัดอำเภอเมืองขอนแก่น นำส่งหนังสือที่ ขก. 0018.1/32896 ลงวันที่ 12 ธ.ค. 66 เรื่อง การพิจารณาออกคำสั่งทางปกครองกับสถานบริการชื่อสุขสันต์ขอนแก่น ถนนประชาสำราญ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยทางเจ้าของร้านได้รับหนังสือด้วยตนเอง

โดยรายละเอียดในหนังสือดังกล่าว เป็นหนังสือที่ลงนามโดยนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 12 ธ.ค. 66 เป็นหนังสือการพิจารณาออกคำสั่งทางปกครองกับสถานบริการชื่อ "สุขสันต์ขอนแก่น" ส่งถึงบริษัท คิงส์บาร์เทอร์ จำกัด โดยนายอภิวัตน์ วิสุทธิสาทอง (ผู้แทนของนิติบุคคลผู้รับอนุญาต) สถานบริการชื่อสุขสันต์ยอนแก่น สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาหนังสือสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ที่ ตช อ 019(ยก).55/24583 ลงวันที่ 16 ธันวาคม 2566 ด้วยสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่นรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ 04.30 น. ได้มีนางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ17 ปี เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ว่าถูกนายสมรักษ์ คำสิงห์ พาไปเพื่อการอนาจารที่โรงแรมมันตราวารี ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ภายหลังจากที่เข้าไปใช้บริการที่สถานบริการชื่อ สุขสันต์ขอนแก่น ตั้งอยู่ถนนประชาสำราญ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

ต่อมาพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น แจ้งข้อกล่าวหากับนายปรเมษฐ์ อรรคยาต ผู้แสดงตนเป็นผู้ดูแลร้านสุขสันต์ ว่า เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้ได้รับอนุญาตจัดตั้งสถานบริการ ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์เข้าไปใช้บริการ และเปิดทำการเกินกว่าเวลาตามที่มีกฎหมายบัญญัติ และนายปรเมษฐ์ อรรคยาต ผู้แสดงตนเป็นผู้ดูแลร้านหรือผู้กระทำความผิด รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

ให้ร้านสุขสันต์โต้แย้งใน 7 วัน ก่อนสั่งปิด พบประวัติเคยจัดโชว์เปลือย

จังหวัดขอนแก่น พิจารณาแล้ว ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2504 โดยผ้าฝืนมาตรา 16/1 และมาตรา 17 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 27 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท และผ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 62/2558 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 ข้อ 4 (1) และ (3) และประกาศคณะปฏิวัติ ที่ 50 ข้อ 2 ลงวันที่ 15 มกราคม 2502 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2564 ตามมาตรา 3

เพื่อให้โอกาสได้ทราบข้อเท็จจริงที่จะใช้เป็นเหตุผลในการออกคำสั่งทางปกครองต่อสถานที่ดังกล่าวและมีโอกาสได้โต้แย้งแสดงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของตนตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 จึงขอให้ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการชื่อ สุขสันต์ขอนแก่น ตั้งอยู่เลขที่ 212 ถนนประชาสำราญ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดชอนแก่น ใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ เลขที่ 17/2566ผู้รับอนุญาตให้ตั้งสถานบริการคือบริษัท คิงส์บาร์เทอร์ จำกัด จดทะเบียนนิติบุคคลทะเบียนเลขที่ 110556612908 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 โดยนายอภิวัตน์ วิสุทธิสาทอง (ผู้แทนของนิติบุคคลผู้รับอนุญาต ทำหนังสือโต้แย้งแสดงข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของตน ยื่นต่อจังหวัดขอนแก่น ภายในกำหนด 7 วัน นับตั้งแต่ใด้รับหนังสือฉบับนี้

หากไม่ยื่นหนังสือโต้แย้งแสดงข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานของตนภายในกำหนด จะถือว่าไม่ประสงค์ที่จะโต้แย้งหรือแสดงพยานหลักฐาน ซึ่งจังหวัดขอนแก่นจะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ในส่วนของร้านสุขสันต์นั้น พบว่าเคยถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไปก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง ภายหลังทางร้านได้จัดการแสดงโชว์เปลือยอก โดยการแสดงโชว์ของ ออย รอยจูบ ดาวติ๊กต๊อก อายุ 25 ปี ชาว ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ

โดยในโชว์นั้น มีการถอดเสื้อเปลือยกายท่อนบน แสดงโชว์ประกอบดนตรีให้แก่ลูกค้าที่กําลังนั่งดื่มกินรับชม ถือเป็นการ กระทําความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 383 ผู้ใดกระทําการอันควรขายหน้าต่อธารกํานัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทําการลามกอย่างอื่น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5000 บาท

ส่วนนายปรเมษฐ์ ผู้จัดการร้าน สุขสันต์ ทางพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานดําเนินคดีกับผู้จัดการ ร้าน ในข้อหา “ตั้งสถานบริการ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 มีอัตราโทษจําคุก ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

เมื่อ 12 ธ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ วัดศิริสุทโธ คำชะโนด ต.บ้านม่วง อ.บ้านม่วง จ.อุดรธานี  ได้มี พิธีมอบอุโบสถศาลา ซึ่งก่อสร้างโดย ดร.ไพโรจน์ รื่นวิชา โดยภายในงานได้มีเหล่า ศิลปิน ดารารุ่นใหญ่ในวงการ ที่มีจิตศรัทธาเข้าร่วมงานเพื่อความเป็นศิริมงคลมากมาย อาทิ ดร.เป็ด เชิญยิ้ม, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, ฮาย อาภาพร นครสวรรค์,สมรักษ์ คำสิงห์, สมจิตร จงจอหอ, เด๋อ ดอกสะเดา, เท่ห์ อุเทน พรหมมินทร์, โย่ง เชิญยิ้ม

โดยจะมีมอบอุโบสถศาลในช่วงบ่ายวันนี้  โดยวันนี้กองทัพสื่อมวลชนต่างเดินทางมาจำนวนมาก เพื่อมาพบกับสมรักษ์ คำสิงห์  แต่ตั้งแต่เช้ายังไร้เงาของสมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งเป็นศิษย์อีกคนของอาจารย์ไพโพรจน์ที่จะเดินทางมาร่วมงานด้วย โดยในช่วงบ่ายจะมีพิธีมอบอุโบสถศาลมูลค่าการก่อสร้าง 100 ล้านให้กับทางวัดศิริสุทโธต่อไป

ในโอกาสนี้ สมจิตร จงจอหอ นักชกเหรียญทองโอลิมปิคได้เดินทางมาร่วมในครั้งนี้ด้วย พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับอาจารย์ไพโรจน์ ผมก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำบุญและก่อสร้างในครั้งนี้ ขอร่วมอนุโมสาธุกับพี่น้องที่มาทำบุญด้วย ส่วนตัวเชื่อเพราะฝากตัวเป็นลูกศิษย์อาจารย์ และให้อาจารย์ไพโรจน์เขียนผ้ายันต์ให้เป็นยันต์โบราณประจำตัว รู้สึกว่ามาถูกทาง มีงานทำที่ดี สุขภาพแข็งแรง อาจารย์สอนให้ทำบุญ ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวสมรักษ์เป็นลูกศิษย์อาจารย์ไพโรจน์จะเดินทางมาร่วมในพิธีครั้งนี้ สมจิตรบอกว่า ตามโปรแกรม ตัวผมเอง สมรักษ์  ดาราศิลปินที่เป็นลูกศิษย์อาจารย์จะต้องเดินทางมาสายบุญครั้งนี้สมรักษ์ต้องมา ยืนยันสมรักษ์มาแน่นอน ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงเดินทางมา น่าจะมาถึงช่วงบ่าย

ผมยังไม่ได้คุยกับสมรักษ์แต่อย่างใดในเรื่องนี้ แต่ก็ติดตามข่าวอยู่ตลอด ก็ขอให้กำลังใจนักชกรุ่นพี่ ขอให้ทุกอย่างมันออกมาในทิศทางที่ดี ขอให้เป็นไปตามกระบวนตามกฎหมาย ผมในฐานะรุ่นน้องก็ขอให้กำลังใจพี่สมรักษ์ในฐานะนักมวยรุ่นพี่

 

 'สมรักษ์' โผล่คำชะโนด พร้อมตามหมายเรียก 

ปรากฎว่า สมรักษ์ คำสิงห์ ได้เดินทางมาถึงคำชะโนดแล้ว โดยสวมใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ยังยิ้มได้ โดยไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ บอกกับนักข่าวสั้นๆ ว่า เดี๋ยววันนี้ขอมาทำบุญก่อน ขอเวลาส่วนตัว ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มาทำบุญกับอาจารย์ไพโรจน์หรือเปล่าครับ สมรักษ์ บอกว่า ขอเวลาส่วนตัววันนี้ตั้งใจมาทำบุญ โดยสมรักษ์มีสีหน้ายิ้มแย้มและเดินทางไปทักทายเพื่อนๆ ทุกคนต่างโห่ร้องดีใจ สมรักษ์มาแล้ว และนั่งรับประทานร่วมกัน ก่อนจะมีพิธีมอบอุโบสถศาลาคำชะโนดในช่วงบ่ายนี้

จากนั้นสมรักษ์ ได้เปิดเผยว่า มาวันนี้เพื่อมาร่วมทำบุญกับอาจารย์ไพโรจน์ ผมมาตั้งแต่ตรงนี้เป็นป่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็ดีใจที่มามอบอุโบสถศาลาวันนี้ ที่มาวันนี้ผมมีโปรแกรมอยู่แล้ว มาแล้วก็สบายใจ เพราะได้มาทำบุญ ถ้ามีปัญหาอะไร คนเราก็ต้องให้กำลังใจตัวเองก่อน เพื่อจะได้มีแรงสู้ต่อไป  

กรณีที่ผู้เสียหายไปร้องกับ กัน จอมพลัง นั้น ตามสบายเลย ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม กรณีหมายเรียกตำรวจ ผมยังไม่ได้รับหมายเรียกเลย ถ้าตร.เรียกก็จะไปแน่นอน  ซึ่งสมรักษ์ยังมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสยังยิ้มได้ แต่บางครั้งก็มีท่าทีกังวล ปาดเหงื่อ และมีนักข่าวหลายช่องขอสัมภาษณ์เดี่ยวแต่สมรักษ์ขอร้องนักข่าว เอามือกุมที่หน้าอก เหมือนจะบอกว่าเข้าใจหัวอกผมบ้าง 

ทนายแนะสมรักษ์หยุดพูด พาสาว 17 เข้าโรงแรม

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบกับ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หรือ ทนายรณณรงค์

ทนายรณณรงค์ กล่าวถึงคดีที่สมรักษ์ถูกแจ้งความดำเนินคดีสาว 17 ปี เข้าโรงแรม ว่า หลังเกิดเหตุนายสมรักษ์ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตน หากติดต่อมาแต่แรก ตนก็จะบอกให้นายสมรักษ์หยุดพูดหรือให้สัมภาษณ์ออกสื่อ เพราะพูดมาไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้นเลย ยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อเข้าตัว คดีนี้สมรักษ์ควรหยุดพูดแล้วไปสู้คดีกันในเรื่องที่เข้าใจผิดเรื่องอายุ แต่จะรอด ไม่รอด เป็นดุลยพินิจของศาล ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ถ้าตัวเด็กซึ่งอายุยังไม่ถึง 18 ปี ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ตาม มีความผิดทั้งหมด ตอนนี้นายสมรักษ์ต้องหยุดพูดและเก็บตัวเป็นดีที่สุด เหมือนเรื่องตอนโควต้าสลากินแบ่งรัฐบาลก็เช่นกัน ตนเคยบอกให้หยุดพูดแต่สมรักษ์ก็ไม่หยุด เข้าใจว่าเป็นนิสัยคงจะไปห้ามเขาไม่ให้พูดคงไม่ได้หรอก

 

คืบหน้าคดีพาเด็กเข้าโรงแรม ระหว่าง สมรักษ์ กับสาววัย 17

ตำรวจและสหวิชาชีพ เตรียมเข้าสอบปากคำกับหญิงวัย 17 ปี ในวันนี้ เพื่อจะให้พนักงานสอบสอบปากคำ ก่อนจะออกหมายเรียก สมรักษ์ คำสิงห์ เพื่อเข้ามาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา โดยยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง2ฝ่าย 

12 ธันวาคม 2566 พันตำรวจเอกยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้ากรณีที่นายสมรักษ์ คำสิงห์ ถูกกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศหญิงวัย 17 ปีนั้น

เบื้องต้นได้ส่งตัวนักเรียนสาววัย 17 ปีผู้เสียหายไปพบแพทย์ เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายและแจ้งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนที่จะให้ไปอยู่ภายใต้การดูแลที่บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น

พร้อมกับประสานสหวิชาชีพ เพื่อเข้าสอบปากคำให้ได้ภายในวันนี้ หากผู้เสียหายสามารถให้ปากคำได้ก็จะมีการเริ่มสอบปากคำในวันนี้ทันที เพื่อประกอบสำนวนคดี หลังชุดสืบสวนได้ออกไปเก็บหลักฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งที่โรงแรมและที่สถานบันเทิง ที่คู่กรณีทั้งสองคนได้เจอกัน

รวมทั้งมีการสอบปากคำเพื่อนของเด็กหญิง 17 ปี จำนวน 3 คน รวมทั้งคนที่ขับรถจักรยานยนต์พาสมรักษ์ และหญิงวัย 17 ปี ไปโรงแรม

โดยสอบปากคำไปแล้วทั้งหมด 5 ปาก ในส่วนการออกหมายเรียกนายสมรักษ์ คำสิงห์นั้น จะต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานจากพนักงานสอบสวนเสียก่อน

จากนั้น จึงจะได้มีการออกหมายเรียกนายสมรักษ์ คำสิงห์ มาสอบลปากคำและถึงจะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ส่วนความผิดเกี่ยวกับสถานบันเทิงที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปรามมาร้องทุกข์ ในข้อหา “ยินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้ามาใช้บริการ และเปิดสถานบริการเกินเวลา” ส่วนประเด็นที่ว่าเด็กหญิงวัย 17 ปี มีการใช้บัตรประชาชนปลอม หรือปลอมแปลงเอกสารเพื่อเข้าไปในสถานบริการ ทางตำรวจจะได้มีการตรวจสอบอีกครั้ง โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

ความคืบหน้าสาว 17 ปีแจ้งความถูกสมรักษ์ คำสิงห์ อ้างว่าโดนข่มขืน ล่าสุดจากกรณีหญิงอายุ 17 ปี แจ้งความที่ สภ.เมือขอนแก่น กล่าวหาถูกนายสมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยเหรียญทองโอลิมปิค อ้างว่า ล่วงละเมิดทางเพศ ในโรงแรม
        
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น (วันที่ 11 ธันวาคม 25566) ทราบว่า ในการสืบสวนสอบสวนทางคดีดังกล่าวนั้นทางพนักงานสอบสวน ได้สอบปากคำเพื่อนน้องที่มาด้วยกันไปหมดแล้ว ในส่วนของทางพนักงานสอบสวนนั้นก็จะมีการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมหลายปาก ทั้งคนขับรถจักรยานยนต์ที่ไปส่งสมรักษ์ พนักงานสถานบันเทิง และพยานที่เกี่ยวข้องอีกหลายปาก

โดยในส่วนของหญิง 17 ปีนั้น ขณะนี้ทางผู้ปกครองอยู่กับน้องแล้ว ซึ่งอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งต้องรอให้สภาพจิตใจของหญิง 17 ปีสามารถให้ปากคำได้ก่อน โดยเวลานี้ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานครบหมดแล้ว ในส่วนหมายเรียกสมรักษ์ คำสิงห์นั้น จะต้องรอการสอบสวนน้องก่อน จึงจะสามารถออกหมายจับได้ 

เบื้องต้นนั้น จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเข้าข่ายมูลความผิดฐานพากผู้เยาว์ ทั้งนี้เนื่องจาก ในคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ และผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศและระดับโลก ในการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นนั้นจะต้องละเอียดรอบคอบได้ข้อมูลพยานหลักฐานครบทุกมิติเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ก่อนหน้านี้ นักมวยดังเหรียญทองโอลิมปิก อย่าง สมรักษ์ คำสิงห์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองมาเที่ยวตามประสาคนเที่ยวทั่วไป ส่วนน้องคู่กรณีก็มาเที่ยวของน้องเขา และมาที่โต๊ะเดียวกัน ก่อนจะตามกันไปที่โรงแรม ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องรอพิสูจน์

ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนใคร และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด ในคืนนั้นมีเพียงการถอดเสื้อผ้า และหอมกอดกันธรรมดา ก่อนจะถามอายุว่าเท่าไหร่ บอกว่า 17 ปี พอรู้ก็ตกใจเลย จึงบอกว่าไม่ได้ ๆ ก่อนจะนอนหลับอยู่บนเตียงเลย กระทั่งถูกถ่ายภาพตอนหลับเข้าแจ้งความดังกล่าว

 

สมรักษ์ คําสิงห์ ล่าสุด เรื่องหย่า

นายสมรักษ์ คำสิงห์ บอกอีกว่า ตนเองเซ็นใบหย่ากับภรรยานานแล้ว ประมาณ 2 เดือนกว่า ๆ ยืนยันว่าไปโรงแรมด้วยกันจริง นอนด้วยกันในห้อง และมารู้ว่าอายุ 17 ปี ตอนที่ถึงโรงแรมแล้ว เรื่องการฉุดกระชากขึ้นรถนั้นไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เพราะมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว

ยืนยันไม่มีการฉุดกระชากแต่อย่างใด ตนเองไม่อยากพูดเยอะเพราะน้องก็เป็นเด็ก

 

จ่อปิดสถานบันเทิงที่สมรักษ์กับเด็ก 17 ปีใช้บริการ ก่อนมีข่าวข่มขืนในโรงแรม?

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชาญชัย  ศรีศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ถึงกรณี สถานบันเทิงชื่อสุขสันต์ ปล่อยให้หญิงสาว อายุ 17 ปี เข้าไปเที่ยวและดื่มกินในร้าน เมื่อคืนวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาว่า ในเรื่องของร้านสุขสันต์ที่ว่าสมรักษ์เข้าไปเที่ยวและไปเจอเด็ก 17 ปีแล้วเกิดเรื่องราวขึ้นมานั้น ไม่แน่ใจในเรื่องของการตรวจสอบบัตรประชาชน ของคนเข้าไปเที่ยวในร้าน ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น ก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหากับทางร้านสุขสันต์ในการปล่อยปละละเลยให้เด็ก 17 ปีเข้าไปเที่ยว 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  ยังกล่าวถึงการอนุญาต หรือการปิด เปิดร้านนั้น อยู่ที่ฝ่ายปกครอง เพราะเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทางฝ่ายปกครองเองทางจังหวัด ก็จะพิจารณาความผิดของร้านสุขสันต์  ซึ่งได้มีคำสั่งไปตามลำดับตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมาแล้ว

1.การจะสั่งปิดหรือสั่งลงโทษทางร้าน ต้องมีหลักฐานชัดเจนก่อนว่าปล่อยปละละเลยหรือไม่ ถ้าปล่อยปะละเลยก็จะโดนตั้งแต่ว่าอนุญาตให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ปีเข้าไป

2.การจำหน่ายสุราให้แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 3 เปิดร้านเกินเวลา เพราะเปิดได้ถึงตี 2 

3.ตอนนี้ทางร้านออกแก้ตัวว่า เด็กไม่ได้เข้าร้าน แต่สมรักษ์ยืนยันว่าเจอกันในร้าน คุยกัน ดื่มกันที่โต๊ะ ถ้าหลักฐานมันมัดตัว ก็แสดงว่า ร้านปล่อยปะละเลย 

“ทุกอย่างต้องชัดเจน และต้องตรวจสอบก่อน เพราะไม่ใช่ว่าจะปิดได้ทันที มันต้องสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งโทษอาจจะแค่สั่งปิดชั่วคราวหรือสั่งปิด 5 วัน ซึ่งกรณีนี้ต้องได้สั่งปิด เพราะจากหลักฐานร้านต้องโดนลงโทษ เด็กสาวเองก็ยืนยันในตอนแจ้งความ สมรักษ์เองก็ยืนยัน ว่าเจอกันในร้าน มันคือหลักฐานที่มัดแน่น จึงต้องถูกดำเนินการปิด แต่จังหวัดต้องตรวจสอบตามขั้นตอนให้ชัดเจนก่อน”

ขณะที่นายสมรักษ์ คำสิงห์ นักชกมวยชื่อดังที่ถูกกล่าวหา ยืนยันกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง และขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายโดยมอบหมายให้ทางทนายความส่วนตัวที่ให้ทำหน้าที่มากว่า 20 ปี เป็นคนดำเนินการทั้งหมด โดยผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบกับนายสมรักษ์ คำสิงห์นักมวยเหรียญทองโอลิมปิค ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น ซึ่งสมรักษ์ พักอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง และมีท่าทีสบายๆ ไม่เครียด  โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า  ได้เดินทางมาเที่ยวหาเพื่อนที่จังหวัดขอนแก่น และได้เข้าไปเที่ยวที่สถานบันเทิงสุขสันต์จริง มีคนมากหน้าหลายตามาขอถ่ายรูปคู่ด้วย  หนึ่งในนั้นมีหญิงสาวรายดังกล่าวมาถ่ายรูปด้วยและนั่งดื่มกินด้วยกันในร้าน  และหญิงสาวได้บอกว่า มีอายุ 17 ปี มาจากจังหวัดกาฬสินธุ์  โดยได้บอกกับยายว่า จะมาสอบที่ขอนแก่น   จากนั้นจึงชวนเพื่อนๆมาเที่ยวที่ร้านสุขสันต์  เมื่อได้ยินจึงบอกไปว่า ไม่เชื่อว่าเด็ก 17 ปี จะเข้าไปในร้านได้ เพราะเชื่อว่า ทางร้านมีมาตรการในการตรจสอบนักท่องเที่ยวเข้าในร้าน ต้องอายุเกิน 20 ปี จึงไม่คิดว่าเด็กสาวที่คุยด้วยอายุ 17 ปีตามที่บอกมา จึงปล่อยเลยตามเลย จนร้านปิด เด็กสาวบอกว่าจะไปด้วยและขอไปรอหน้าร้าน

สมรักษ์  กล่าวต่ออีกว่า เมื่อออกมาหน้าร้าน ก็เจอหญิงสาวคนนั้นจริง และนั่งตรวจกลาง ส่วนตนนั่งซ้อนท้ายคนที่สาม และพากันขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปที่โรงแรมที่พัก เมื่อถึงโรงแรมก็เดินขึ้นห้อง เมื่อถึงห้องก็กอดจูบกัน  จึงถามย้ำกับหญิงสาวว่า อายุเท่าไหร่กันแน่ หญิงสาวตอบว่า 17 ปี เมื่อได้ยินคำตอบ จึงผละออกและบอกให้หญิงสาวนอนพักผ่อน และขอยืนยันว่า ไม่ได้ข่มขืน ไม่ได้มีการสอดใส่ ตอนนี้เรื่องทุกอย่างมันเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว เพราะหญิงสาวแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น แต่ไม่หนักใจ ทุกอย่างอยู่บนความเป็นจริง และจะไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อใด ขอให้เป็นหน้าที่ของทนายความ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกอย่างว่ากันไปตามข้อเท็จจริง

สมรักษ์ ยังบอกอีกว่า หลังหญิงสาวมีการแจ้งความ และมีเรื่องราวออกไป ก็ได้กำลังใจจากลูก และเพื่อนฝูง จากผู้ใหญ่หลายท่าน  ซึ่งต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก  ตอนนี้ยังคงอยู่ในจังหวัดขอนแก่นไปจนกว่าจะจบเรื่องคดีดังกล่าว หลังจากจบเรื่องก็จะไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เพราะเบื่อสังคมแบบนี้ และขอยืนยันว่าไม่ได้ฉุดกระชากหรือข่มขืนเด็กสาวอายุ 17 ปี แต่อย่างใด ขณะนี้ตำรวจยังไม่เรียกตัวไปสอบสวน หากถูกเรียกตัวก็พร้อมให้ความร่วมมือไปให้ปากคำทุกเวลา

 

ตำรวจกำลังสอบสวนคดีสมรักษ์กับนักเรียนหญิงวัย 17

สถานีตํารวจภูธรเมืองขอนแก่น รายงาน 10 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ได้มี นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุประมาณ 17 ปี 10 เดือน ได้เดินทางมาพบ พนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูก นายสมรักษ์ คําสิงห์ พาไปเพื่อการอนาจาร

พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนอนแก่น ได้รับคําร้องทุกข์และสอบปากคําเบื้องต้นแล้วได้สอบปากคําเพื่อนที่เป็นคนไปรับตัวของนางสาวเอ (นามสมมุติ) จากโรงแรมไว้เป็นพยานและพนักงานสอบสวนได้ทําหนังสือพร้อมส่งตัวนางสาวเอไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลขอนแก่น ต่อมา จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ ทราบว่า สภ.เมืองขอนแก่น ได้ดําเนินการ ดังนี้ คือ

1. สอบสวนพยานเพิ่มเติมซึ่งเป็นเพื่อนของนางสาวเอนามสมมุติ

2. ส่งตัวผู้เสียหาย ไปพบแพทย์ตรวจร่างกาย และแจ้ง เจ้าหน้าที่ พัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ และส่งตัว ผู้เสียหายไปพักที่บ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น

3.ประสานสหวิชาชีพพร้อมสอบสวนปากคําผู้เสียหายต่อหน้าสหวิชาชีพแจ้งญาติให้มารับตัวขณะนี้ผู้เสียหายอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและสตรีจังหวัดขอนแก่น

4.ชุดสืบสวน ออกเก็บ พยานหลักฐานเพิ่มเติม กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมถึงสถานที่ เกี่ยวข้อง รายงานการสืบสวน ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป

5.ในความผิดเกี่ยวกับสถานบริการที่ปรากฏในสํานวนการสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกัน และปราบปรามมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ในข้อหา "ยินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุ ต่ํา กว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้ามาใช้บริการและเปิดทําการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ" พนักงาน สอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่สถานบริการที่เด็กเข้าไปใช้บริการแล้ว โดยมีผู้จัดการร้าน มารับทราบข้อกล่าวหา

6.ในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาจะรวบรวมพยานหลักฐานหากปรากฏหลักฐานแน่ชัดจะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

 

• สมรักษ์ คำสิงห์ คาใจโทรถามสาว 17 ทำไมแจ้งความพี่ 

11 ธันวาคม 2566 จากกรณีสาว อายุ 17 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น โดยอ้างว่า ถูกนายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก อดีตนักมวยชื่อดัง พาเข้าโรงแรมแล้วลงมือกระทำอนาจาร หลังรู้จักกันในผับแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น 

ล่าสุดเวลา 07.00 น. นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวีว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาได้โทรคุยกับน้องคู่กรณี  ถามน้องว่าทำไมถึงแจ้งความดำเนินคดีทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร ไม่แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะนี้ได้สั่งให้ทนายความดำเนินการ ไม่อยากพูดอะไรมาก แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการกระทำชำเรา ไม่ได้บังคับข่มขู่ ยืนยันไม่รู้จักกันมาก่อน เจอกันที่ผับครั้งแรกเท่านั้น ส่วนที่เข้าไปผับได้ทั้งที่อายุไม่ถึงทราบว่ามีการปลอมแปลงเอกสารอายุด้วย

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นได้อธิบายให้กับลูกๆเข้าใจ ไม่กลัวว่าจะส่งผลกระทบทางการเมือง เพราะก่อนหน้านั้นเคยสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ขอนแก่น ตอนนี้ต้องรอพิสูจน์ความจริงให้สังคมได้รับทราบ ทุกอย่างต้องมีหลักฐาน กล้องวงจรปิดก็มี สามารถพิสูจน์ได้ ไม่รู้ว่าน้องจงใจแบล็กเมลหรือไม่ แต่พักพวกเชื่อว่าน้องจงใจแบล็กเมล แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ต้องพิสูจน์กัน 

เบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้เรียกเข้าไปให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากนี้ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ยังไม่พร้อมตั้งโต๊ะแถลงรอปรึกษาทนายความ
 

ทนายรณณรงค์ชี้คดี สมรักษ์ คำสิงห์ ถ้าทำจริงโดนข้อหาหนัก

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายของเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นายรณณรงค์ แก้วเพรช ทนายความชื่อดัง ระบุว่า เรื่องนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง สิ่งที่พี่สมรักษ์จะเจอคือข้อหามาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร

มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง 10 ปี ปรับเป็นเงินตั้งแต่ 40,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยที่บุคคลนั้นไม่อาจขัดขืนได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีกรณีการพาผู้เยาว์อายุ 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้เด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ยินยอมก็ตาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวว่าน้องอายุเท่าใด แล้วพี่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศด้วย ถึงน้องเขาจะยินยอมหรือไม่ยินยอม แต่ถ้าน้องเขาอายุยังไม่ถึง 18 ปี ติดคุกทุกราย

 

สมรักษ์แฉเด็กสาว 17 แต่งภาพแก้ พ.ศ.เกิดบัตรประชาชนในมือถือ ก่อนเนียนเข้าเที่ยวผับ

ล่าสุด นายสมรักษ์ คำสิงห์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่า เด็กอายุ 17 ได้เข้าห้องในโรงแรมจริง โดยไม่มีการฉุดกระชากหรือบังคับแต่อย่างใด ยืนยันว่าเด็กคนดังกล่าวได้เดินตามหลังตนเองมาจากสถานบันเทิงจริง เมื่อถึงโรงแรมได้มีการถอดเสื้อผ้าทั้งสองคน เพื่อที่จะร่วมกิจกรรมทางเพศ แต่เนื่องจากตนได้สอบถามถึงอายุที่แท้จริงว่าอายุเท่าใด เมื่อทราบว่าอายุ 17 ปี จึงไม่มีการสอดใส่ หรือกระทำกิจกรรมกันแต่อย่างใด

สมรักษ์ ระบุอีกว่า ในส่วนที่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าสถานบริการนั้น ตนทราบภายหลังว่า เด็กมีการแก้ไขภาพบัตรประชาชน พ.ศ.เกิดในโทรศัพมือถือ โชว์ให้การ์ดของร้านดูก่อนเข้าไปเที่ยว ทั้งนี้ตนเองก็พร้อมที่จะเดินทางไปยัง สภ.เมืองขอนแก่น รับทราบข้อกล่าวหา หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัว

 

เตรียมเรียกสอบ คนขับรถพาสมรักษ์และเด็ก 17เข้าโรงแรม

ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ว่ามีการเรียกสอบปากคำ เพื่อนของเด็กอายุ 17 ปี แล้วโดยให้การตรงกับที่มีพยาานหลักฐานว่าได้พบกันที่สถานบันเทิง แต่ไม่ได้ไปที่โรงแรมดังกล่าวกับน้อง จากนั้นเพื่อนได้ไปรับน้อง17ที่โรงแรม ไปด้วยกันทั้งหมด 3คน ส่วนจะเรียกสอบปากคำนายสมรักษ์ วันไหนนั้น ต้องรอสอบปากคำเด็ก อายุ 17ก่อน เพราะขณะนี้น้องยังให้การไม่ได้ เพราะสภาพจิตใจน้องยังไม่ดีขึ้น 

ส่วนในวันนี้ จะมีการเรียกสอบปากคำ คนที่ขับรถจักรยานยนต์ ที่รับนายสมรักษ์ และเด็กอายุ 17 ปี ไปส่งที่โรงแรม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนขับรถรายดังกล่าว 

 

สมรักษ์พ้อไม่อยากอยู่เมืองไทย

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ  ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ภายหลังรับแจ้งความ ทางคดีนั้น เบื้องต้นเป็นสองส่วน ในส่วนของการล่วงละเมิดทางเพศ และการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ ซึ่งเบื้องต้นนั้น เด็กอายุ 17 ปีที่เข้าแจ้งความ อยู่ในความดูแลของทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการสอบปากคำพร้อมทีมสหวิชาชีพ 

และจะได้สอบพยานเพิ่มเติมทั้งพนักงานที่ร้านและที่โรงแรม และในส่วนที่ผู้เสียหายอายุ 17 ปี เข้าไปใช้บริการภายในสถานบันเทิงนั้น ทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในความผิดเกี่ยวกับสถานบริการที่ปรากฎในสำนวนการสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปรามมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ในข้อหา “ยินยอมหรือการปล่อยปละละเลยให้บุคคลอายุ ต่ำกว่า 20 ปีบริบูณ์ เข้ามาใช้บริการและเปิดทำการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ” พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา แก่สถานบริการที่เด็กเข้าไปใช้บริการแล้ว โดยมีผู้จัดการร้าน มารับทราบข้อกล่าวหา และในส่วนของผู้ถูกกล่าวหาจะรวบรวมพยานหลักฐานหากปรากฎหลักฐานแน่ชัดจะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนต่อไป

ในส่วนที่เด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี เข้าไปใช้บริการภายในสถานบันเทิงนั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายสมรักษ์ คำสิงห์ ผู้ที่ถูกกล่าวหา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในช่วงที่ดื่มกินในสถานบันเทิงนั้น น้องเค้าเข้ามากินที่โต๊ะด้วย และตีสนิทกอดแขน เกาะแขน ซึ่งได้พูดคุยกันช่วงที่เที่ยว ตนเองก็ถามอายุ บอกตนเองว่า 17 ปี ตนเองก็ไม่เลื่อเพราะว่าถ้าเข้ามาข้างในนี้ได้ต้องอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป จึงไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดว่าพูดเล่น ก็ถามว่า 17 เข้าได้เหรอ น้องบอกว่าหนูมีวิธี แต่ตนเองก็ไม่ได้สนใจ กระทั่งเที่ยวเสร็จพากันตามไปที่โรงแรม โดยไม่ได้มีการฉุดกระฉาก ขึ้นบนห้องก็มีการกอดจูบเปลื้องผ้ากันตามปกติ แต่พอถามอายุอีกครั้ง ยังยืนยันว่า 17 ปี จึงตั้งสติได้บอกน้องว่า 17 ปี เอาไม่ได้ นอนเลย ก่อนที่น้องจะบอกตนเองว่า งั้นจะโทรบอกเพื่อนมารับและตนเองก็นอนคลุมโปงเลย กระทั่งทราบว่าถูกแจ้งความดังกล่าว

สมรักษ์ คำสิงห์ บอกอีกว่า เรื่องเด็ก 17 เข้าสถานบันเทิงนั้น ทราบว่าช่วงขั้นตอนตรวจบัตรนั้น เด็กเอาภาพถ่ายบัตรให้การ์ดดู แล้วบอกว่าลืมบัตร อีกทั้งบุคลิกรูปร่างตัวใหญ่ จึงเข้ามาได้ ส่วนตัวเชื่อว่าเราทำความดี เราบริสุทธิ์ใจ เราไม่ต้องกลัวอะไร บางครั้งเบื่อ ท้อ ไม่อยากอยู่เมืองไทย แต่ก็คิดว่าเราทำดีก็ต้องได้ดีแหละ มีหลายคนให้กำลังใจเข้ามาก็ขอขอบคุณทุกคนทุกกำลังใจ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่อยากจะพูดอะไรเยอะ ขอปล่อยเป็นเรื่องของทางทนายความเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมดแล้ว

 

ตาของนักเรียนหญิงวัย 17 ย้ำให้ดำเนินคดีกับสมรักษ์ คำสิงห์

ล่าสุดวันที่ 10 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่แห่งหนึ่งใน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เป็นบ้านของหญิงสาววัย 17 ปี แต่ไม่พบตัว พบเพียงตาของหญิงสาว อยู่บ้านคนเดียว และผู้ใหญ่บ้าน ส่วนหญิง วัย 17 ปีไม่อยู่ ขณะที่ยายได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมารับตัวไปตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว

โดยตา ระบุว่า หลานสาวอายุ 17 ปี  ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่ง จ.ขอนแก่น พักอาศัยอยู่บ้านกับตาและยาย ในหมู่บ้าน อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ก่อนเกิดเหตุหลานสาวเดินทางเข้าไปตัวเมืองขอนแก่น แจ้งว่าจะไปสอบและสัมภาษณ์เข้ามหาลัยกับเพื่อน จากนั้นช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีตำรวจจาก สภ.เมืองขอนแก่น ขับรถมาแจ้งว่าหลานสาวไปแจ้งความ เนื่องจากถูกระเมิดทางเพศ และได้รับตัวยายเข้าไปด้วย ซึ่งตนรู้สึกตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก ส่วยรายละเอียดนั้นตนยังไม่ทราบ ทั้งนี้หลานสาวมีความประพฤติดีมาโดยตลอด อีกทั้งจะมีอนาคตไปอีกยาวไกล นอกจากนี้อยากให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างถึงที่สุดอีกด้วย 

ขณะที่ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า นักเรียนหญิงวัย 17 ปี มีความประพฤติดีเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปประกวดแข่งขันระดับประเทศ และช่วยเหลือชุมชนเป็นอย่างดี และชุมชนไม่เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น ในฐานะผู้นำชุมชนรู้สึกตกใจไม่คิดจะเกิดขึ้นกับลูกบ้าน  ส่วนรายละเอียดลึกๆยังไม่ทราบ ในส่วนของคดีก็ต้องให้ตำรวจดำเนินการ

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้พยามโทรศัพท์สอบถามไปยังผู้เสียหาย เพื่อสอบถามรายละเอียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถติดได้
 

สมรักษ์ คําสิงห์ ยศปัจจุบัน

มียศทหารเรือคือ เรือเอก สมรักษ์ คำสิงห์ ลาออกจากกองทัพเรือ เพื่อลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต 11 พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 ครั้งที่ผ่านมา แต่ไม่ได้เลือกตั้ง

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าว สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ บาส และอดีตภรรยา ถูกฟ้องล้มละลาย โดยราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศวันที่ 21 กันยายน 2561 เรื่อง ให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 โดยบริษัท บริหารสินทรัพย์ มหานคร จำกัด ได้ยื่นฟ้องต่อศาลล้มละลายกลางขอให้จำเลยทั้งสองล้มละลาย มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์สินของจำเลย