กรมสรรพสามิต เล็งเก็บภาษีคาร์บอน ลดโลกร้อน

กรมสรรพสามิต เล็งเก็บภาษีคาร์บอน ลดโลกร้อน

กรมสรรพสามิต เล็งเก็บภาษีคาร์บอน ลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก-ลดโลกร้อน ขณะที่สหรัฐฯ-ยุโรปออกกฎกติกาแล้ว

วันนี้ (14 ธ.ค. 66) นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า   กรมฯ ให้ความสำคัญด้าน ESG  ด้วยการมุ่งเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ควบคู่ไปด้วยไม่ใช่จัดเก็บภาษีบาป เหล้า บุหรี่ เพียงอย่างเดียว  ซึ่งเห็นว่าทุกคนต้องช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เนื่องจากไทยติด 1 ใน 10 ประเทศที่มีความเสี่ยง เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ไทยได้ร่วมข้อตกลงพันธสัญญาในเวทีโลกต่อการแก้ไขปัญหาโลกร้อน คือ กำหนดให้ภายในปี 2065 การปล่อยก๊าซคาร์บอนจะต้องเป็นศูนย์ โดยภาคธุรกิจในไทย ที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตซัพพลายเชนจากต่างประเทศ จะได้รับแรงกดดันจากการผลิตที่ต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ไม่เช่นนั้นจะได้รับแรงกดดันทางด้านกำแพงภาษี ซึ่งประเทศในแถบยุโรป และสหรัฐอเมริกา ก็ได้ออกกติกาทางด้านภาษีแล้ว
 

สำหรับกรมสรรพสามิตต้องปรับโครงสร้างภาษีให้สอดคล้องกับทิศทางที่ดูแลสิ่งแวดล้อม โดยได้ศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีสินค้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอน และใช้มาตรฐานของโลกมาเป็นแนวทางด้วยการจัดเก็บระดับองค์กร และจัดเก็บระดับผลิตภัณฑ์ ซึ่งเห็นว่า การจัดเก็บภาษีสินค้าตั้งแต่ระดับต้นน้ำ เช่น น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน ซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตที่ส่งต่อไปยังสินค้ากลางน้ำและปลายน้ำ จะเป็นการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ไทยปล่อยคาร์บอนถึง 372 ล้านตันคาร์บอน แบ่งเป็น กลุ่มพลังงานและขนส่งรวม 70% ซึ่งสัดส่วน 70% เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีกรมสรรพสามิต
 

สำหรับการจัดเก็บภาษีดังกล่าวนอกจากจะต้องมีความเป็นธรรม และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมแล้ว ต้องคำนึงถึงต้นทุนของประชาชนด้วย ซึ่งผลศึกษาระบุประเทศที่จะช่วยโลกร้อน หรือช่วยแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ต้องใช้กลไกภาคบังคับ เพื่อผลที่มีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนเชิงพฤติกรรม เช่น กรณีที่กรมฯ ศึกษาแนวทางการจัดเก็บภาษีรถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนว่า ในอนาคตรถยนต์ใดที่ปล่อยคาร์บอนสูงก็จะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงพบว่า

  • รถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนมากกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 35% ในปี 2569 และ 38% ในปี 2573
  • รถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอน 151-200 กรัมต่อกิโลเมตร จะถูกเก็บภาษี 30% ในปี 2569 และ 33% ในปี 2573
  • รถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอน 121-150 กรัมต่อกิโลเมตร จะถูกเก็บภาษี 25% ในปี 2569 และ 29% ในปี 2573
  • รถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอน 101-120 กรัมต่อกิโลเมตร จะเก็บภาษีในอัตรา 22% ในปี 2569 และ 26% ในปี 2573
  • รถยนต์ที่ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร จะเก็บภาษีในอัตรา 13% ในปี 2569 และ 15% ในปี 2573