นายกฯ สั่ง ปราบปราม Fake news ไม่ให้เกิดความยุยง แตกแยกในสังคม

วันนี้ (7 มกราคม 2567) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนการส่งต่อ เผยแพร่ข้อมูลใดๆ จำเป็นต้องระมัดระวัง มีสติ ใช้วิจารณญาณพิจารณาข้อมูลข่าวสารก่อนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด ยุยง สร้างความแตกแยกในสังคม ทำลายสันติสุขระหว่างเพื่อนบ้านบั่นทอนผลประโยชน์ของประเทศชาติ ย้ำมีโทษหากเผยแพร่ข้อมูลเท็จ

โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำและขอสื่อสารถึงผู้ที่สร้าง Fake news ว่า รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เพราะถือว่าเป็นผู้ไม่หวังดีในสังคม และขอเตือนถึงผู้แชร์ข้อความใดๆ ให้ตรวจสอบก่อนเผยแพร่ เพราะถือเป็นผู้มีความผิดเช่นกัน

"นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปราบปรามการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ Fake news บั่นทอน สร้างความแตกแยกในสังคม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า การรักษาและดูแลผลประโยชน์ของชาติ เป็นความตั้งใจสูงสุดของรัฐบาลนี้" นายชัย กล่าว
 

ทั้งนี้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ 2560 มาตรา 14 วางหลักว่าผู้ใดกระทำโดยทุจริตหรือหลอกลวง นําเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลมีความบิดเบือน เป็นความจริงบางส่วน หรือไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ส่งต่อมีอัตราโทษเท่ากัน