บุก 'เขาใหญ่' จับนายทุนใหญ่ อ้างสนิท รมต. รุกป่า 138 ไร่ มูลค่าเกิน 100 ล้าน
ตำรวจกองปราบ บุก 'เขาใหญ่' จับนายทุนใหญ่ อ้างสนิท รมต.-นักการเมือง-ข้าราชการ รุกป่า 138 ไร่ มูลค่าเกิน 100 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับกรมป่าไม้ รวบผู้มีอิทธิพลพื้นที่เขาใหญ่ แอบอ้างอดีตรัฐมนตรี นักการเมือง ข้าราชการ บุกรุกป่าโครงการเฉลิมพระเกียรติ พื้นที่กว่า 138 ไร่ มูลค่าสูงเกินกว่า 100 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ทำการจับกุม นายพลวิวัฒน์ นายทุนรายใหญ่ พร้อมพวกรวม 14 คน
กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันเข้าไปหาประโยชน์ยึดถือครอบครอง ปลูกสร้าง ก่นสร้าง แผ้วถาง เผาป่า หรือทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน หรือทำให้เป็นอันตรายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในที่ดินภายในเขตของนิคม เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ.2511, ร่วมกันก่นสร้าง แผ้วถาง เผ่าป่า หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือ หรือครอบครองป่า โดยมิได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือ รอยตรารัฐบาลขาย”
สถานที่จับกุม พื้นที่ป่าบริเวณบ้านหนองช้างตาย หมู่ที่ 20 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
สืบเนื่องจาก มีผู้ร้องเรียนว่าพบนายทุนรายใหญ่ และเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ บุกรุกพื้นที่ป่าบริเวณบ้านหนองช้างตาย ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่ยังอุดมสมบูรณ์ มีพฤติการณ์ที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าดำเนินการเนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของนายทุนรายนี้
โดยเมื่อทำการบุกรุกจนได้แปลงที่ดินแล้ว ก็จะให้นายหน้าที่ดิน ประกาศขายให้กับนักธุรกิจหรือบุคคลที่สนใจ แล้วก็จะไปบุกรุกที่อื่นต่อและมีพฤติกรรมแบบนี้ซ้ำ ๆ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. และ พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก. (สอบสวน)ฯ กก.3 บก.ปทส. สั่งการให้ พ.ต.ท.วิรุณ ประทะทอง สว.กก.3 บก.ปทส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปทส. ดำเนินการ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ จนนำมาสู่การตรวจยึดจับกุมการกระทำความผิดของนายพลวิวัฒน์ฯ กับพวก ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบ นายพลวิวัฒน์ฯ อ้างว่าสนิทสนมกับอดีตรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงรวมทั้งนักการเมืองหลายราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกิดความเกรงกลัวและไม่ดำเนินการจับกุมพวกตน
หลังตรวจสอบพบความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมหน่วยร่วมปฏิบัติจึงทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด และตรวจยึดของกลางนำส่ง พงส.สภ.หนองสาหร่าย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย