ผบ.ตร.ลั่นวันนี้คดี ‘ป้าบัวผัน’ ทุกอย่างจบ ยันไม่มีเรื่องอิทธิพล

จากกรณีเหตุการณ์กลุ่ม 5 เยาวชน ทำร้าย "ป้าบัวผัน" หรือ "ป้ากบ" วัย 47 ปี จนเสียชีวิต ก่อนจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในเวลาต่อมา คือ "ลุงเปี๊ยก" สามีป้ากบ ทำให้เรื่องราวดูจะลงเอยด้วย ทว่า ต้องมากลับตาลปัตร เมื่อกล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ว่า ผู้ก่อเหตุที่ลงมือนั้นยังเป็นเพียงเยาวชน อีกทั้ง ยังพบประวัติก่อเหตุรุนแรงไม่ต่างจากผู้ใหญ่ รวมถึงมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีครั้งนี้ในทำนองเป็นการช่วยเหลือให้พ้นผิด 

โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีดังกล่าว ระหว่างลงพื้นที่เพื่อดูโครงการศูนย์บริการการพัฒนาขยายพันธุ์ไม้ดอกไม้ผลบ้านไร่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ว่า วันนี้ (20 ม.ค.67) ไม่ได้ลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว แต่คณะสืบสวนข้อเท็จจริงคดีนี้ จะคลี่คลายทุกอย่างให้จบภายในวันเดียวกันนี้  

"ยืนยันว่าตำรวจไม่มีการช่วยอยู่แล้ว และได้สั่งการไปว่าคดีทุกอย่างต้องตรงไปตรงมา เพราะมี พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือแม้แต่ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ เป็นตัวบังคับ ซึ่งตำรวจก็ถูกตรวจเช็กแบบรอบด้าน และเทคนิคนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดจะเป็นตัวชี้วัดว่า ตำรวจผิดไม่ผิด หากผิดก็ว่าไปตามผิด" ผบ.ตร. กล่าว  

ขณะเดียวกัน ส่วนตัวได้หารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในเบื้องต้น ซึ่งนายกฯ ก็เห็นด้วยที่ ผบ.ตร. ลงพื้นที่ไปเอง และทุกอย่างจะจบหมด ยืนยันไม่มีเรื่องอิทธิพล ทำทุกอย่างตรงไปตรงมา วันนี้น่าจะจบในเรื่องของตำรวจที่ถูกกล่าวหาว่าจับแพะ ส่วนคดีที่ตำรวจไปสืบสวนมา ก็ต้องดำเนินคดีทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ที่มีข้อเสนอจะให้แก้กฎหมายเพื่อลดอายุเยาวชนที่กระทำความผิดลงนั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้นำเสนอไป แต่ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นำฝ่ายกฎหมายและคดี มาดูในข้อกฎหมายว่ามีสนธิสัญญาเกี่ยวกับสิทธิที่ประเทศไทยไปทำไว้กับสหประชาชาติ ว่าจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ และต้องดูข้อศึกษาของประเทศญี่ปุ่น และประเทศเยอรมนี ทำได้อย่างไร ซึ่งต้องนำไปเปรียบเทียบกัน ตอนนี้ทีมงานทั้งหมด จะสรุปมาให้ตนเองภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อนำเรียนนายกฯ และให้กระทรวงยุติธรรม ได้สานต่อจากหลายหน่วยงาน