จับ 'ผจก.สินเชื่อ' แสบ! แอบนำเอกสารลูกค้าไปทำบัตรกดเงินสด เสียหายเกือบ 3 แสน
งามไส้! จับ 'ผจก.สินเชื่อ' สุดแสบ แอบนำเอกสารลูกค้าที่มาใช้บริการกู้ยืมเงินกับบริษัท ไปสวมรอยทำบัตรกดเงินสด ก่อนขโมยถอนรวมเกือบ 3 แสน เหยื่อเพียบ อ้างติดหนี้นอกระบบ
วันที่ 31 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำหมายศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าทำการจับกุมนายอนุรักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้จัดการบริษัทสินเชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์
สืบเนื่องจากได้มีประชาชนซึ่งเป็นลูกค้าเข้าไปใช้บริการกู้เงินที่บริษัทสินเชื่อดังกล่าว เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่า มีคนแอบสวมรอยทำบัตรกดเงินสดไปขโมยกดเงินของตนเองที่ชำระหนี้คืนบริษัท ทำให้ยอดหนี้คงเหลือไม่ตรงตามความเป็นจริง โดยมีผู้เสียหายถูกขโมยถอนเงินจำนวน 3 ราย เฉลี่ยรายตั้งแต่ 5 - 9 หมื่นบาท รวมเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2 แสนบาท เมื่อช่วงเดือน ธ.ค.66 ทั้งที่ผู้เสียหายทั้ง 3 คนไม่มีบัตรกดเงินสด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมือง และชุดสืบภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมลงพื้นที่หาข้อมูลและเบาะแสหาตัวผู้กระทำผิด จนพบพยานหลักฐานว่า ผู้ที่แอบถอนเงินของลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการบริษัทสินเชื่อเป็นผู้จัดการบริษัทสินเชื่อเอง จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดบุรีรัมย์ออกหมายจับนายอนุรักษ์ ขณะกำลังทำงานอยู่ที่บริษัท ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ให้ดูพยานหลักฐาน นายอนุรักษ์จึงยอมรับสารภาพว่าได้ขโมยถอนเงินของลูกค้าจริง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายอนุรักษ์ไปตรวจค้นห้องพัก พบเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันที่ไปถอนเงินที่ตู้เอทีเอ็มทั้งในตัวเมืองและห้างสรรพสินค้า ตามภาพวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้ จึงตรวจยึดเสื้อผ้าไว้เป็นหลักฐาน พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถกระบะที่ใช้ประกอบการกระทำผิด 1 คัน ส่วนบัตรกดเงินสดนายอนุรักษ์อ้างว่าหลังก่อเหตุได้โยนทิ้งไปแล้ว แต่จำสถานที่ทิ้งไม่ได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้นำตัวนายอนุรักษ์ไปชี้จุดที่ถอนเงินสดและร้านที่แอบนำเอกสารของลูกค้าไปซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ เพื่อสวมรอยทำบัตรเงินสดใช้ในการกดถอนเงินของลูกค้า
นายอนุรักษ์ (ผู้ต้องหา) สารภาพว่า ตนได้ทำงานที่บริษัทสินเชื่อแห่งนี้มาตั้งเปิดบริษัท พอทำไปสักระยะก็เริ่มรู้ช่องทางที่จะเอาเงิน จากนั้นก็ไปซื้อซิมโทรศัพท์มือถือ แล้วโทรไปแจ้งเปลี่ยนเบอร์และข้อมูลของลูกค้าในระบบ ก็สามารถเปิดบัตรเงินสดได้ แล้วก็ใช้บัตรเงินสดดังกล่าวไปถอนเงินออกมา พอก่อเหตุเสร็จก็เอาบัตรทิ้ง โดยจะเลือกลูกค้าที่ส่งชำระมาหลายงวดและมีเงินหมุนเวียนในบัตรเยอะ ตอนนี้ตนรู้สึกผิดและยอมรับในผลที่ตัวเองทำ รู้อยู่แล้วว่าสักวันจะถูกจับได้ แต่ที่ทำเพราะเป็นหนี้นอกระบบหาทางออกไม่ได้
ทั้งนี้ นายอนุรักษ์ ถูกแจ้งข้อหา 'ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง , ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิ์ใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกเงินสด'
หากประชาชนรายใดตกเป็นเหยื่อในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลได้กับ พ.ต.ท.อิทธิพล เพ็ญเดิมพันธ์ สว.กก.สืบสวน1 บก.สส.3 เบอร์ 093-4647453 (ชุดจับกุม) หรือ ร.ต.อ.ปรฉัตร รักษาวงษ์ พนักงานสอบสวน 088-3754028 พร้อมกันนี้ก็ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่ไปใช้บริการสินเชื่อ ควรหมั่นตรวจสอบยอดที่กู้ และการส่งชำระคืนเป็นระยะว่ายอดตรงตามที่ชำระและคงค้างว่ามีความผิดปกติหรือไม่