ครูต้องรู้ เกษียณแล้วถูกหลอกสูญเงิน 7 ล้าน

กรณี หลอกครูวัยเกษียณ สูญเงิน กว่า 7 ล้านนั้น ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุมนายธัชชัย กระทำผิดฐาน “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”

สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจาก เมื่อปี 2565 ผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตครูเกษียณ ได้ถูกคนร้ายโทรศัพท์ติดต่อเข้ามา โดยได้เเจ้งให้ทราบว่าผู้เสียหายมีพัสดุตกค้างอยู่ที่ศรีราชา ภายในกล่องพัสดุมีสมุดบัญชีธนาคาร, บัตร ATM, หนังสือเดินทาง และสิ่งของผิดกฎหมาย ด้วยความกลัวจึงขอให้คนร้ายช่วยเหลือ

จากนั้นคนร้ายจึงต่อสายโทรศัพท์ให้ผู้เสียหายคุยกับกลุ่มคนร้ายซึ่งอ้างตัวว่าเป็นร้อยเวรอยู่ที่ สภ.ศรีราชา พร้อมกับให้พูดคุยผ่านทางไลน์ที่ใช้ชื่อว่า สภ.ศรีราชา

โดยคนร้ายได้แจ้งให้โอนเงินไปให้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง. เพื่อตรวจสอบที่มาของเงิน หากไม่มีความผิด ก็จะได้รับเงินคืน ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไป 7,000,000 บาท แต่ต่อมากลับไม่สามารถติดต่อกับกลุ่มคนร้ายได้และไม่ได้รับเงินคืน จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกจึงได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.สั่งการให้ พ.ต.ท.สุขสิทธิ์  ประเสริฐ  สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.5 บก.ป.

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า นายธัชชัยฯ เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่คนร้ายกลุ่มนี้ใช้ในการก่อเหตุ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา จนทราบว่านายธัชชัยฯ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว จึงเข้าไปตรวจสอบ พบนายธัชชัยฯ จึงเข้าจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย