10 หลักเกณฑ์ใหม่ กรมประมง 'วางประกัน' แทนการกักเรือ ยึดเครื่องมือประมง
เปิด 10 หลักเกณฑ์ใหม่ ของกรมประมง "วางประกัน" แทนการกักเรือ เอื้อทำประมงได้ระหว่างพิจารณาคดี มีผลบังคับใช้ตั้งเเต่วันนี้ เป็นต้นไป เช็กขั้นตอน "ยื่นคำขอวางประกัน" แทนการยึดเครื่องมือทำการประมงได้ที่นี่
กรมประมง ประกาศข่าวดี เรื่องการวางประกันแทนการยึดเครื่องมือทำการประมงหรือการกักเรือประมง โดยเรือประมงที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี สามารถวางประกันแล้วนำเรือประมง เครื่องมือประมง ไปทำการประมงได้
สำหรับหลักประกันที่ใช้แทน ได้แก่ เงินสด ที่ดิน พันธบัตร หุ้น หรือบุคคลค้ำประกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมงที่ถูกห้ามออกทำการประมง ทำให้ชาวประมงสามารถนำเรือออกไปจับปลาหารายได้ระหว่างรอพิจารณาดำเนินคดีได้
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายเร่งผลักดันฟื้นฟูอุตสาหกรรมประมงไทยให้กลับมาเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ และประชาชนอีกครั้ง
โดยพร้อมสนับสนุนและปรับกลไกการทำงานแก้ไขปัญหาให้ชาวประมง มุ่งมั่นในการแก้ไขกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายให้เหมาะสม โดยเฉพาะกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อชาวประมง ที่ยังไม่สอดคล้องกับวิธีการทำประมงในปัจจุบัน เนื่องจากกฎหมายฉบับเดิมนั้น
เมื่อเจ้าของเรืออยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินคดี เรือประมงจะถูกกักหรือริบเรือไว้ ทำให้ชาวประมงไม่สามารถนำเรือออกไปประกอบอาชีพได้ ส่งผลให้สูญเสียรายได้
ด้วยเหตุนี้ กรมประมงจึงออกประกาศ เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการวางประกันแทนการยึด เครื่องมือทําการประมงหรือกักเรือประมง พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เป็นครั้งเเรก
เพื่อเป็นการปลดล็อกข้อจำกัด ในช่วงที่ชาวประมงออกเรือไม่ได้ โดยใช้ “การวางหลักประกัน” แทน เรือประมงที่จะต้องถูกกัก หรือ ยึด เป็นการช่วยให้พี่น้องชาวประมงสามารถนำเรือออกไปทำการประมงได้ ไม่สูญเสียรายได้ระหว่างช่วงพิจารณาคดี
สำหรับหลักเกณฑ์ประกาศฉบับนี้ เจ้าของเรือสามารถยื่นคําขอวางประกัน ณ สํานักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ที่เครื่องมือทําการประมงหรือเรือประมงถูกยึด หรือ ติดต่อเจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการเรือประมงและการทำการประมง
กรณีเป็นเรือประมงนอกน่านน้ำ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ
10 หลักเกณฑ์ใหม่ "วางประกัน" แทนการกักเรือ ยึดเครื่องมือประมง เปิดโอกาสให้สามารถทำการประมงได้ระหว่างพิจารณาคดี
โดยหลักประกันที่สามารถใช้วางประกันได้นั้น ต้องเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
1. เงินสด
2. แคชเชียร์เช็ค
3. หนังสือค้ำประกันของธนาคาร (bank guarantee)
4. ที่ดินมีโฉนดหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์
5. ที่ดินมีโฉนดหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน์และสิ่งปลูกสร้าง
6. ห้องชุดมีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์
7. พันธบัตรรัฐบาลไทย
8. หุ้นหรือหุ้นกู้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
9. หลักทรัพย์มีค่าที่กําหนดราคามูลค่าแน่นอน เช่น สลากออมสิน บัตรหรือสลากออมทรัพย์ทวีสินของ ธกส. ใบรับเงินฝากประจําธนาคาร
ตั๋วแลกเงินที่ธนาคารเป็นผู้จ่ายและธนาคารผู้จ่ายได้รับรองตลอดไป ตั๋วสัญญาใช้เงินที่ธนาคารเป็นผู้ออก ตั๋วเช็คที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่ายและรับรองซึ่งสามารถเรียกเก็บเงินได้ในวันที่ทําสัญญาประกัน
หนังสือรับรองของธนาคารหรือบริษัทประกันภัยเพื่อชําระเบี้ยปรับแทนกรณีผิดสัญญาประกัน หรือหลักทรัพย์อื่นที่มีลักษณะทํานองเดียวกัน
10. บุคคลค้ำประกัน ซึ่งต้องเป็นผู้มีตําแหน่งหน้าที่การงานหรือมีรายได้แน่นอน เช่น ข้าราชการ ข้าราชการบํานาญ สมาชิกรัฐสภา ผู้บริหารท้องถิ่น เป็นต้น
ขั้นตอนการยื่นคำขอวางประกัน แทนการยึดเครื่องมือทำการประมงหรือกักเรือประมง
ทั้งนี้ ประกาศดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งเเต่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป โดยกรมประมงเชื่อมั่นว่าประกาศฉบับนี้ จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงได้
ซึ่ง กรมประมง พร้อมรับฟังและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมงอยู่เสมอ จากนี้จะเร่งดำเนินการให้ประมงจังหวัด และประมงอำเภอในพื้นที่ สร้างความเข้าใจ และประชาสัมพันธ์ให้ชาวประมงได้รับทราบถึงสิทธิตามกฎหมายดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาชีพประมงและด้านเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
โดยสามารถสแกน QR-Code หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ : กองกฎหมาย กรมประมง โทร 02-561-2928
และกองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมงโทร. 02-561-2341 , 082-649-7981 , 064-695-3360