จัดการคลิปหลุด เปิดกลุ่มลับ บุกจับพระขายคลิปมีเซ็กส์เด็กว่อนออนไลน์
ฮอตมากมาแรงกลายเป็นประเด็น เปิดกลุ่มลับ ปล่อยคลิปหลุดโป๊ บุกจับพระขายคลิปมีเซ็กส์เด็กว่อนออนไลน์ งานนี้วงการผ้าเหลืองเสื่อม
กรณีเปิดกลุ่มลับ ปล่อยคลิปหลุดโป๊ บุกจับพระระดับนักธรรมขายคลิปมีเซ็กส์เด็กว่อนออนไลน์ ตามที่กลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้รับแจ้งเบาะแสจาก The Scientia Program (โปรแกรมซายเอนเทีย) ซึ่งเป็น NGO ที่ดำเนินการในประเทศไทยเพื่อสนับสนุนผู้บังคับใช้กฎหมายของไทยในการต่อสู้กับการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์จากเด็ก จากเบาะแสดังกล่าวพบว่ามีการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ LINE
โพสต์โฆษณาให้ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกเข้ากลุ่มลับ โดยมีข้อความลักษณะเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปเข้าดูวิดีโอคลิปเด็กมัธยมชายกระทำอนาจารในบริบทต่างๆ
คลิปโป๊เด็กอื้อ
ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท. เร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระทำผิดที่ส่งผลกระทบเด็กและเยาวชน โดยจากการตรวจสอบพบว่า มีเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีที่สามารถระบุตัวตนได้ปรากฎในคลิปจำนวน 5 ราย และยังมีที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้อีกเป็นจำนวนมาก
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันสืบสวนจนทราบว่าผู้จัดการบัญชี หรือ แอดมิน LINE คือ พระสงฆ์ อายุ 23 ปี ปัจจุบันบวชอยู่ในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าตรวจค้นเป้าหมาย
แอดมินกลุ่มลับ
ช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต บก.ตอท. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าตรวจค้นกุฏิภายในวัดแห่งหนึ่งใน อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พบพระสงฆ์แอดมินกลุ่มลับดังกล่าวข้างต้น
คลิปหลุดคลิปลับมีเซ็กซ์อื้อ
เมื่อขอตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ พบภายในติดตั้ง แอพพลิเคชั่น LINE โดยลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีที่ประกาศขายคลิปสื่อลามกอนาจารเด็กชาย (CSAM) ซึ่งเป็นผู้จัดการหรือแอดมินกลุ่มเองจำนวน 2 กลุ่ม และเป็นสมาชิกกลุ่มอื่น (CSAM) อีกกว่า 100 กลุ่ม รวมสมาชิกทั้งหมด 16,206 คน
พบสื่อลามกอนาจารเด็กเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ, Notebook (โน๊ตบุ๊ก), Flash Drive (แฟลชไดร์ฟ) และที่จัดเก็บจัดการไฟล์ออนไลน์ (MEGA) รวมจำนวน 78.2 GB ซึ่งมีคลิปวิดีโอ อีกเกือบ 7,000 ไฟล์
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร่วมกันแจ้งข้อหา ดังนี้
1. นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
2. ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กและส่งต่อซึ่งส่งสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก
3. เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าสื่อลามกอนาจารเด็กแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใดๆ ว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตามมาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าสื่อลามกอนาจารเด็กดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด
ก่อนตำรวจไซเบอร์จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สหัสขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย