เปิดตัวเลข สงกรานต์ สนามหลวง 3 วันแรก คนทะลักเที่ยว 3 แสนคน เงินสะพัด 290 ล้าน
ททท. เปิดตัวเลข เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 สนามหลวง 3 วันแรก นักท่องเที่ยวแห่เที่ยวเกือบ 3 แสนคน เงินสะพัด 290 ล้านบาท สะท้อนศักยภาพไทยสู่เป้าหมายเป็น 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลของโลกในอนาคต
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า การจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่จัดขึ้น ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลางและสนามหลวง ระหว่างวันที่ 11 – 15 เมษายน 2567 พบว่ามีกระแสตอบรับที่ดีและมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์ ทั้งสิ้น 299,425 คน แบ่งเป็นสัดส่วนชาวไทยร้อยละ 85 และชาวต่างชาติร้อยละ 15 และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งสิ้น 3 วันจำนวน 292,042,489 บาท และมียอดขายร้านค้าภายในงาน รวม 3,935,687 บาท ซึ่งเกิดจากโซน OTOP 3,074,351 บาท โซน Soft Power 802,176 บาท และโซนกิจกรรมย้อนยุค 59,160 บาท
โดยจากผลการสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในวันที่ 13 เมษายน 2567 พบว่า ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมีความพึงพอใจในการจัดงาน 'สงกรานต์' ระดับมากที่สุด โดยมีความพึงพอใจสูงสุดในกิจกรรมที่เชิดชูเอกลักษณ์ สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทย และพึงพอใจในการชมขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์ รวมทั้งต้องการให้มีการจัดงานลักษณะนี้อีกครั้ง ขณะที่ร้านค้าทั้งภายในและภายนอกงานมีความพึงพอใจระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน
สำหรับงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ยังมีการจัดกิจกรรมในบริเวณพื้นที่ท้องสนามหลวงจนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้ ททท. มุ่งนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทย อัตลักษณ์ประเพณีสงกรานต์ และ Soft Power ไทย ด้วยนวัตกรรมและความสร้างสรรค์
โดยในวันที่ 15 เมษายน เวทีใหญ่พบกับการแสดงทางวัฒนธรรมไทย เปิดฟลอร์ลีลาศเริงรำวันสงกรานต์กับสุนทราภรณ์ กิจกรรมการแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ วง Asia 7, เอ๊ะ จิรากร, วง Atlas และปิดท้ายด้วยวง Bodyslam
เวที EDM : เปิดเพลง EDM โดยดีเจชื่อดัง ได้แก่ DJ Bubblepaint, สร้างบรรยากาศ โดย DJ มะตูม และ ปิดด้วย EDM จาก DJ Foamie
นอกจากนี้ภายในงานสงกรานต์ สนามหลวง ยังมีความสนุกสนานกับการเล่นน้ำหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โซนสงกรานต์อัตลักษณ์ 5 ภาค ได้แก่
- ภาคเหนือ ม่วนใจ๋สงกรานต์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชื่นใจอีหลี
- ภาคตะวันออก สงกรานต์ฮิ
- ภาคกลาง สงกรานต์เมืองเก่า
- ภาคใต้ หรอยหนัดสงกรานต์
พร้อมเวทีลานกิจกรรม 5 ภาค นำเสนอศิลปวัฒนธรรมถิ่น การแสดงอารยนคราอุดรทิศ (ภาคเหนือ) การแสดงจำอวดหน้าม่าน วงดนตรีภาคตะวันออก โชว์ทำอาหาร และมีการมอบของรางวัล Soft Power สาขาท่องเที่ยว กิจกรรม DIY งานหัตศิลป์ อาทิ สาธิตร่มบ่อสร้าง ตุงไส้หมู กิจกรรมแข่งเดินกะลา สาธิตทำหัวโขน เพ้นท์ช้าง สาธิตทำผ้าบาติกกับหนังตะลุง
โซน Soft Power นำเสนอเอกลักษณ์ในแต่ละสาขา อาทิ โซนมวย ยุทธศิลป์ มวยสยาม ชมการต่อสู้ในรูปแบบของมวยไทย
โซน Food Truck ลิ้มรส เลื่องอัตลักษณ์ ยกขบวนความอร่อยทั่วสารทิศมาไว้ในงาน
โซนกิจกรรมท่องเที่ยว เที่ยวไทยเท่ เสน่ห์ทุกมิติ แหล่งรวมข้อมูลท่องเที่ยวทั่วไทย พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว
โซนหนังสือ มนต์เสน่ห์แห่งอักษร พร้อมชวนย้อนรำลึกความหลังใน
โซนหนังกลางแปลงย้อนยุคและงานวัด ควบคู่ไปกับโซนหนังแนวตั้งยุคใหม่ และจอ Naked Eye 3D จอ 3 มิติ สร้างมุมมองเสมือนจริง
และโซนเล่นน้ำ แสง สี พบกับระบำน้ำพุบกที่สูงที่สุดในประเทศไทยกว่า 20 เมตร ลานเล่นน้ำ อุโมงค์น้ำ ถังน้ำมหายักษ์ สถานีน้ำ จัดเต็มแสงสีเสียงสุดอลังการ และโซนเล่นน้ำ ไทยดั้งเดิม ยกลานน้ำแบบไทยเดิมให้ผู้เข้าร่วมแต่งกายในชุดไทยย้อนยุคและพกขันน้ำมาร่วม
โซนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และสุดยอดของดี OTOP จากทั่วประเทศ
รวมทั้งกิจกรรมสรงน้ำพระและสนุกสนาโซนก่อเจดีย์ทราย เจดีย์วิถี 'สงกรานต์' เพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมประเพณีไทยอันดีงาม
นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายรูปกับขบวนรถพาเหรดมหาสงกรานต์กว่า 20 ขบวนที่จอดแสดงโชว์อยู่บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งประกอบด้วย ขบวนรถพระพุทธรูป ขบวนรถนางสงกรานต์ ขบวนรถพาเหรด 16 จังหวัด ขบวน Soft Power และ ขบวน LGBTQ อีกด้วย
ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 2,908,600 คน ที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือนเมษายน จะมีโอกาสได้เข้าร่วมงาน สงกรานต์ที่จัดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย สร้างรายได้ 131,992 ล้านบาท ด้านตลาดในประเทศ คาดว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 1-21 เมษายน 2567 ประมาณ 15.03 ล้านคน-ครั้งและสร้างรายได้ 52,500 ล้านบาท โดยสำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร คาดว่าในช่วงการจัดกิจกรรมสงกรานต์ระหว่างวันที่ 12 – 16 เมษายน 2567 จะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 3,690 ล้านบาท และมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 653,590 คน–ครั้ง