มูลนิธิเมาไม่ขับ ทำหนังสือถึง ผู้พิพากษา ขอลงโทษสถานหนัก ผู้บริหารสาว เมาแล้วขับ

จากกรณี ผู้บริหารสาวบริษัทระดับโลก 'เมาแล้วขับ' และยังถีบหน้าตำรวจ ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (27 เม.ย.67) นายแพทย์ แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ทำหนังสือถึง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระโขนง เรื่อง ขอให้พิจารณาตัดสินลงโทษสถานหนัก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่เมาแล้วขับ โดยมีใจความว่า

 

 

ตามที่ปรากฏข่าวต่อสาธารณชน กรณี ผู้บริหารสาวบริษัทระดับโลก ขับรถขณะเมาสุรา และยังเคยถูกจับดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับมาแล้ว ซึ่งศาลได้ให้โอกาสโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี สอดคล้องกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ ที่มีการแก้ไขและประกาศบังคับใช้ในกรณีของเมาแล้วขับซ้ำในระหว่างที่ถูกรอลงอาญา 2 ปี ให้ศาลจำคุกและปรับเสมอ

 

มูลนิธิเมาไม่ขับ ในฐานะองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่ทำการรณรงค์การบังคับใช้กฎหมาย และรณรงค์หยุดการเมาแล้วขับมาตั้งแต่ พ.ศ.2539 จึงมีหนังสือมายังท่านผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงพระโขนง ขอให้ใช้ดุลพินิจลงโทษผู้บริหารหญิงรายนี้ด้วยโทษสถานหนัก ตามบทบัญญัติกฎหมาย คือจำคุกไม่รอลงอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่คิดจะละเมิดกฎหมายเมาไม่ขับ เพื่อความปลอดภัยและลดปัจจัยเสี่ยงบนท้องถนน

 

อนึ่ง มูลนิธิเมาไม่ขับ ไม่มีเหตุโกรธเคืองอันใดกับบุคคลดังกล่าวเป็นการส่วนตัว การเรียกร้องครั้งนี้ทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณชน เพื่อปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน และพิทักษ์ไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย

 

 

 

นอกจากนี้ทาง มูลนิธิเมาไม่ขับ ยังทำหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชกการแทน ผบ.ตร. เพื่อแสดงความชื่นชม พ.ต.ท.ดาราธร ขจรศิลป์ รองผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนมีสติในการจับกุมบุคคลดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีเมาแล้วขับ จนถูกกระทำการลบหลู่เกียรติความเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการใช้เท้าถีบหน้า แต่ พ.ต.ท.ดาราธร ยังคงมีสติไม่ตอบโต้ปฏิบัติหน้าที่สมกับคำว่า ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์

 

ผกก.สน.ประเวศ เผย ผู้บริหารสาวบริษัทระดับโลก เตรียมเข้าให้ปากคำช่วงเย็นวันนี้ (27 เม.ย.67)

 

พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ให้ร้อยเวรประสานไปที่ ผู้บริหารสาวบริษัทระดับโลก รายดังกล่าวแล้ว ว่ามีสื่อมวลชนมารอที่ สน. หากประสงค์จะเดินทางมา หรืออยากพาทนายความมาด้วยก็สามารถพามาได้ โดยครั้งแรกได้นัดหมายไว้ช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 3 พ.ค.67 แต่หญิงสาวรายดังกล่าวเห็นว่าเป็นประเด็นที่มีคนสนใจและเป็นประเด็นร้อนจึงนัดมาภายในวันนี้ (27 เม.ย.67)

 

'สาวอดีตผู้บริหารเป็นคนเลือกเวลาที่จะมาในช่วง 20.00 - 21.00 น.ของวันนี้ เพื่อมาให้ปากคำพร้อมทนายความ เนื่องจากรอทนายความที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ'