จับแก๊งหลอกลงทุนเครื่องจักรโรงงาน ปลอมเป็นวิศวะ ตุ๋นนายหน้าประกัน 5 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์ จับเครือข่ายหลอกลงทุนเครื่องจักรโรงงาน ปลอมเป็นวิศวะเม็กซิกัน ตุ๋นนายหน้าประกันไปกว่า 5 ล้าน
กรณีจับเครือข่าย"หลอกลงทุน" เครื่องจักรโรงงาน ปลอมเป็นวิศวะเม็กซิกัน ตุ๋นนายหน้าประกันไปกว่า 5 ล้าน สืบเนื่องจาก มีผู้เสียหายหญิงรายหนึ่ง อายุ 54 ปี มีอาชีพเป็นนายหน้าประกันและประกอบธุรกิจส่วนตัวได้ถูกมิจฉาชีพปลอมโปรไฟล์เฟซบุ๊กเป็นชายวัย 40 ปี อ้างว่าทำงานเป็นวิศวกรในประเทศเม็กซิโก แล้วได้ติดต่อพูดคุยกันนานกว่า 1 เดือนจนเกิดความสนิทสนม
ต่อมา มิจฉาชีพได้เปลี่ยนมาใช้แพลตฟอร์ม WhatsApp ในการพูดคุย แล้วได้ขอความช่วยเหลือให้ผู้เสียหายช่วยทำธุรกรรมในการโอนเงินค่าเครื่องจักรอุตสาหกรรมไปยังบัญชีปลายทางในประเทศจีนให้ เนื่องจากพื้นที่ที่วิศวกร (ปลอม) อาศัยอยู่มีปัญหาเรื่องระบบอินเตอร์เน็ต จึงได้ส่งลิงก์ปลอมที่อ้างว่าเป็นระบบทำธุรกรรมของธนาคารจีน โดยได้แนะนำให้ผู้เสียหายทำรายการผ่านลิงก์ดังกล่าว และให้โอนเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐไปยังบัญชีปลายทางที่แจ้งในระบบ
ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงตั้งใจทะยอยโอนเงินไป 2 ครั้ง แต่วันแรกโอนไปได้เพียงครั้งเดียว จำนวน 50,000 ดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐ วันต่อมาต้องการโอนครั้งที่ 2 แต่ปรากฏว่าบัญชีปลายทางถูกระงับ จึงได้แจ้งให้วิศวกร(ปลอม) ทราบ
ต่อมา วิศวกร (ปลอม) ได้แนะนำให้ผู้เสียหายติดต่อกับมิจฉาชีพอีกคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารจากประเทศจีน โดยเจ้าหน้าที่ธนาคาร (ปลอม) แนะนำให้ผู้เสียโอนเงินเพื่อเปิดบัญชีให้วิศวกรเป็นสกุลไทย จำนวน 204,000 บาท เพื่อจะนำเงินที่เหลือในบัญชีของวิศวกร(ปลอม) ออกมาได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินจำนวนดังกล่าวไป
ต่อมาวิศวกร (ปลอม) ก็ยังชักชวนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเกี่ยวกับเครื่องจักรโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มเติม โดยอ้างว่าถ้าหากโอนเงิน 1,030,450 บาท ภายใน 3 ชม. จะได้เงินค่าตอบแทน 50,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนไป และหลังจากนั้นผู้เสียหายยังได้โอนเงินเข้าบัญชีคนร้ายอีกหลายครั้งตามเหตุผลต่างๆ ที่มิจฉาชีพจะยกมาอ้าง รวมความเสียหายทั้งสิ้น จำนวน 5,269,450 บาท
จากกรณีข้างต้น พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้จับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องให้ได้ทั้งขบวนการ โดยมีการออกหมายจับและจับกุมผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายรายและได้ทำการขยายผลมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมา พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 จึงมอบหมาย ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 จัดทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สืบสวนเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี จนกระทั่งสามารถนำกำลังพร้อมหมายจับศาลจังหวัดชัยภูมิ เข้าควบคุมตัวนายวันชัย อายุ 45 ปี ชาวยโสธร ได้บริเวณริมถนนหน้าร้านขายไอศกรีมแห่งหนึ่ง ริมถนนมิตรภาพสายเก่า ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา
จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการล้วงหรือแสดงตนเป็นบุคคลอื่นร่วมกันโดยทุจริตนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วนโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย