เตือน 43 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ช่วง 23 – 26 มิ.ย. 67
ปภ. เน้นย้ำ 43 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 23 – 26 มิ.ย. 67
วันนี้ (23 มิ.ย 67) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 43 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และคลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 23 – 26 มิ.ย. 67 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 3 (117/2567) ลงวันที่ 22 มิถุนายน 2567 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า ประเทศไทยมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร โดยมีพื้นที่แจ้งเตือนสถานการณ์ระหว่างวันที่ 23 – 26 มิถุนายน 2567 ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง
ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่
- แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองฯ ปาย ขุนยวม แม่ลาน้อย แม่สะเรียง สบเมย)
- เชียงใหม่ (อ.ฝาง ฮอด อมก๋อย จอมทอง แม่อาย เชียงดาว สะเมิง แม่วาง แม่ริม แม่แตง)
- เชียงราย (อ.เมืองฯ พาน เทิง เวียงป่าเป้า แม่สาย เชียงแสน แม่จัน แม่สรวย แม่ฟ้าหลวง)
- ลำพูน (อ.เมืองฯ แม่ทา บ้านโฮ่ง ลี้ ทุ่งหัวช้าง)
- ลำปาง (อ.เมืองฯ แจ้ห่ม งาว วังเหนือ เมืองปาน เถิน เกาะคา แม่พริก)
- พะเยา (อ.ปง เชียงคำ จุน ภูกามยาว)
- แพร่ (อ.เมืองฯ สอง สูงเม่น วังชิ้น ร้องกวาง ลอง เด่นชัย)
- น่าน (อ.เมืองฯ แม่จริม ปัว บ่อเกลือ เชียงกลาง ทุ่งช้าง ท่าวังผา สองแคว เฉลิมพระเกียรติ)
- อุตรดิตถ์ (อ.เมืองฯ ฟากท่า ท่าปลา น้ำปาด ลับแล)
- ตาก (อ.เมืองฯ ท่าสองยาง สามเงา แม่ระมาด แม่สอด พบพระ อุ้มผาง)
- พิษณุโลก (อ.วังทอง เนินมะปราง นครไทย ชาติตระการ วัดโบสถ์)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่
- เลย (อ.นาแห้ว ด่านซ้าย ภูเรือ ท่าลี่ เชียงคาน)
- หนองคาย (อ.เมืองฯ โพนพิสัย) บึงกาฬ (อ.เซกา)
- หนองบัวลำภู (อ.สุวรรณคูหา)
- อุดรธานี (อ.เมืองฯ ศรีธาตุ เพ็ญ วังสามหมอ กุดจับ พิบูลย์รักษ์ นายูง น้ำโสม)
- สกลนคร (อ.เมืองฯ ภูพาน สว่างแดนดิน)
- นครพนม (อ.เมืองฯ ศรีสงคราม)
- กาฬสินธุ์ (อ.เมืองฯ ยางตลาด ฆ้องชัย)
- มุกดาหาร (อ.เมืองฯ ดงหลวง หว้านใหญ่ หนองสูง)
- ร้อยเอ็ด (อ.เมืองฯ เสลภูมิ จังหาร เชียงขวัญ)
- ยโสธร (อ.เมืองฯ เลิงนกทา ค้อวัง มหาชนะชัย คำเขื่อนแก้ว ป่าติ้ว)
- อำนาจเจริญ (อ.เมืองฯ ชานุมาน)
- นครราชสีมา (อ.ปากช่อง สีคิ้ว วังน้ำเขียว ปักธงชัย)
- บุรีรัมย์ (อ.เมืองฯ) สุรินทร์ (อ.เมืองฯ ปราสาท พนมดงรัก)
- ศรีสะเกษ (อ.ขุนหาญ)
- อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ บุณฑริก น้ำยืน นาจะหลวย น้ำขุ่น วารินชำราบ เดชอุดม นาเยีย)
ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่
- กาญจนบุรี (อ.ทองผาภูมิ สังขละบุรี ไทรโยค ด่านมะขามเตี๋ย บ่อพลอย)
- ราชบุรี (อ.สวนผึ้ง บ้านคา)
- นครนายก (อเมืองฯ ป่ากพลี)
- ปราจีนบุรี (อ.ประจันตคาม นาดี)
- ฉะเชิงเทรา (อ.สนามชัยเขต ท่าตะเกียบ)
- ชลบุรี (อ.เมืองฯ บางละมุง ศรีราชา)
- ระยอง (อ.เมืองฯ แกลง บ้านค่าย ปลวกแดง)
- จันทบุรี (อ.เมืองฯ มะขาม ขลุง โป่งน้ำร้อน)
- ตราด (ทุกอำเภอ)
ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่
- ระนอง (ทุกอำเภอ)
- พังงา (อ.เมืองฯ คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง ท้ายเหมือง)
- ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- กระบี่ (อ.เมืองฯ เหนือคลอง อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา เกาะลันตา เขาพนม)
- ตรัง (อ.เมืองฯ ปะเหลียน นาโยง กันตัง ห้วยยอด หาดสำราญ รัษฎา วังวิเศษ)
พื้นที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง
ภาคใต้ 5 จังหวัด ได้แก่
- ระนอง (อ.เมืองฯ สุขสำราญ กะเปอร์)
- พังงา (อ.เกาะยาว ตะกั่วทุ่ง ท้ายเหมือง ตะกั่วป่า คุระบุรี)
- ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
- กระบี่ (อ.เมืองฯ คลองท่อม เกาะลันตา เหนือคลอง อ่าวลึก)
- ตรัง (อ.กันตัง สิเกา ปะเหลียน หาดสำราญ)
- สตูล (อ.เมืองฯ ทุ่งหว้า ละงู ท่าแพ)
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 43 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะการติดตามปริมาณฝนที่ตกในแต่ละพื้นที่ พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนัก และพื้นที่ที่มีปริมาณฝนสะสมสูง รวมถึงเตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที
สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักและมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่รับผิดชอบประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับพื้นที่ที่เฝ้าระวังคลื่นลมแรง ให้พิจารณาออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเล และแจ้งนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำทะเลในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด
พร้อมกันนี้ ให้ประสานกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ เพื่อแจ้งเตือนการเดินเรือ โดยให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวังให้มากขึ้น และหากสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มรุนแรงให้พิจารณาห้ามการเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้จังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และแจ้งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ตลอดจนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยดังกล่าว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป