ร้านทอง ร้านรับจำนำ ผวา! ทองปลอมว่อนทั่วกรุงเทพ บุกจับผัวเมียที่ปทุมธานี

ร้านทอง ร้านรับจำนำ ผวา! ทองปลอมว่อนทั่วกรุงเทพ บุกจับผัวเมียที่ปทุมธานี

เตือนภัย ร้านทอง ร้านรับจำนำ ผวา! ทองปลอมระบาดว่อนทั่วกรุงเทพ บุกจับผัวเมียที่ปทุมธานี ตระเวนนำทองปลอมมาหลอกจำนำตามร้านทองสูญเงินแสน

กรณี"ทองปลอมระบาด"ว่อนทั่วกรุงเทพ ร้านทอง ร้านรับจำนำ ผวา ผัวเมียที่ปทุมธานี ตระเวนนำทองปลอมมาหลอกจำนำตามร้านทองสูญเงินแสน

ล่าสุด ตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นางสาวสุกัญญา หรือ “เจ้สุ ฟ้าคราม” อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ที่ 90/2567 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 ข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์” 

จับกุมได้บริเวณหน้าบ้านพัก ภายในซอย ฟ้าคราม 21 หมู่ 5 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

 

ทองปลอมว่อนทั่วกรุงเทพ ดอนเมือง-ทุ่งสองห้อง

สืบเนื่องด้วยเมื่อประมาณ ต้นปี 2567 ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านทอง ร้านรับจำนำว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพตระเวนนำทองปลอมมาจำหน่ายและจำนำภายในพื้นที่ย่านดอนเมืองและทุ่งสองห้องเป็นจำนวนมาก

โดยจะมีการตระเวนทยอยนำทองปลอมมาขายและจำนำอยู่เป็นประจำ จนสร้างความเดือดร้อน ความเสียหาย และสร้างความหวาดระแวงตกใจกลัวที่ทางผู้ประกอบการจะรับซื้อหรือรับจำนำในระแวกดังกล่าวเป็นวงกว้าง

จากการสืบสวนและจับกุมคนขายทองปลอม

  1. ผู้ถูกจับมีพฤติการณ์และลักษณะการกระทำความผิดในการนำทองปลอมมาจำหน่ายหรือจำนำมาหลอกขาย
  2. จากการตรวจสอบพบว่าผู้ถูกจับเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมืองและยังหลบซ่อนตัวโดยพักอาศัยอยู่บริเวณ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี  
  3. ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว และเฝ้าติดตาม
  4. จนทราบว่า ผู้ถูกจับหลบมาพักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอย ฟ้าคราม 21 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
  5. จากการตรวจสอบพบว่านางสาวสุกัญญาฯ พักอาศัยอยู่ภายในบ้านดังกล่าวจริง
  6. ตำรวจแสดงตนปรากฏว่าเมื่อผู้ต้องหาพบเห็นเข้าไปหลบซ่อนภายในบ้าน
  7. ตำรวจจึงได้เจรจาต่อรองสักระยะหนึ่ง จนนางสาวสุกัญญา ยินยอมออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวและยินยอมให้ถูกจับกุม

จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การรับว่า ตนได้นำสร้อยคำทองคำปลอมไปจำนำให้แก่ร้านทองย่านดอนเมือง และในพื้นที่ ทุ่งสองห้อง จริง แต่ได้โยนความผิดไปยังสามี

ซึ่งต้องหาในความผิดเดียวกันว่า สร้อยคำทองคำทั้งหมดที่ตนได้มานั้นได้มาจากแฟนหนุ่มที่ยังหลบหนีการจับกุม

 จากนั้น ตนกับสามี ได้แยกกันไปขาย โดยตนได้นำสร้อยคำทองคำประมาณ 3-4 เส้นไปจำนำโดยได้มาประมาณ 40,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวนำส่ง พงส.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้กล่าวฝากเตือนว่า พฤติกรรมการหลอกนำเอาสินค้าปลอม สินค้าที่ไม่ได้รับมาตรฐาน หรือสินค้าแลกเลียนแบบ มาจำหน่ายหรือจำนำแก่ผู้อื่นโดยมีเจตนาทุจริต หลอกลวง อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายนั้น ท่านอาจจะเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฉ้อโกง

 และหากมีพฤติการณ์การในการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดข้อความจริงซึ่งควรจะบอกให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นการทั่วไปทั้งหลาย อาจเข้าข่ายเป็นการ ฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีโทษที่หนักและรุนแรงขึ้น ถึงอาจจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หากท่านใดพบบุคคลที่มีพฤติกรรมหรือลักษณะการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล