ทางรัฐล่ม ใช้ไม่ได้ เปิด 5 วิธี ยืนยันตัวตน ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ทางรัฐล่ม ใช้ไม่ได้ เปิด 5 วิธี ยืนยันตัวตน ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

วิธีแก้ “ทางรัฐ” ล่ม ค้าง ใช้ไม่ได้ เช็ก 5 วิธี ยืนยันตัวตน ก่อนลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านตู้อเนกประสงค์ภาครัฐ, แอป ThaID, ตู้บุญเติม, ไปรษณีย์ไทย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven พร้อมไขข้อสงสัย ลงทะเบียนแล้วได้เงินวันไหน เงินดิจิตอลซื้ออะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง?

เปิด 5 วิธี ยืนยันตัวตน ก่อน"ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท" วิธีแก้ “ทางรัฐล่ม ค้าง ใช้ไม่ได้ ทั้งผ่านตู้อเนกประสงค์ภาครัฐ, แอป ThaID, ตู้บุญเติม, ไปรษณีย์ไทย และเคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven 

โดยประชาชนทั่วไปที่จะเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท ในวันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 โดยดำเนินการผ่านแอปฯทางรัฐ บนสมาร์ทโฟน ไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิในโครงการ

ทางรัฐล่ม ใช้ไม่ได้ เปิด 5 วิธี ยืนยันตัวตน ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

เปิด 5 วิธี ยืนยันตัวตน ก่อนลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปฯ ทางรัฐ

วิธีที่ 1 การยืนยันตัวตนผ่าน ตู้อเนกประสงค์ภาครัฐ

ขั้นตอนดังนี้

  1. สอดบัตรประชาชนที่ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ เพื่อเข้าสู่ระบบ
  2. ศึกษาการให้ความยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลในการใช้ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ แล้วกด "ตกลง"
  3. กด "ลงทะเบียนทางรัฐ" ที่หน้าเมนู
  4. หน้าจอจะแสดงรายละเอียดข้อมูลของผู้ใช้งาน จากนั้นให้กด "ยืนยันข้อมูล"
  5. กรอกรหัส OTP 6 หลัก ที่ได้รับทาง SMS ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกด "ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ"
  6. กรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้ใช้งาน จากนั้นกด "ยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ"
  7. หน้าจอจะแสดงผลว่า "ท่านยืนยันข้อมูลสำเร็จแล้ว" จากนั้นให้ดึงบัตรประชาชนออก และกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปพลิเคชันทางรัฐ
  8. กรอกชื่อบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานลงทะเบียนผ่านตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นกด "เข้าสู่ระบบ"
  9. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว จะเข้าสู่หน้าการยืนยันตัวตน ให้ผู้ใช้งานกด "เริ่มยืนยันตัวตน"
  10. ศึกษาข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า แล้วกด "เริ่มยืนยันตัวตน"
     

11. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ

12. พยักหน้าช้าๆ อย่างต่อเนื่อง

13. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

14. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน

15. เปิดการใช้งานสแกนใบหน้าโดยกด "ใช้งาน" จากนั้นทำการสแกนใบหน้า

16. เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จ ให้กด "เริ่มใช้งาน"

17. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที

วิธีที่ 2 ยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaID

ขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วกด "สมัครใช้งาน"
  2. กด "เข้าสู่ระบบ ด้วย ThaiD"
  3. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นกด "ยอมรับ" จากนั้นระบบจะนำเข้าสู่ "แอปฯ ThaiD"
  4. กรอกรหัสผ่านที่ผู้ใช้งานได้จากการลงทะเบียนแอปฯ ThaiD
  5. ระบบจะนำไปสู่ การยืนยันตัวตนให้กดที่ "ยินยอม"
  6. กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
  7. จากนั้นระบบจะนำเข้าสู่ "แอปฯ ทางรัฐ"
  8. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  9. เปิดการใช้งานสแกนใบหน้าโดยกด "ใช้งาน" จากนั้นทำการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าสู่ระบบ
  10. เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จให้กด "เริ่มใช้งาน"
  11. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ บน "แอปฯ ทางรัฐ" ได้ทันที
     

วิธีที่ 3 การยืนยันตัวตนผ่าน ตู้บุญเติม

ขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการสมัครโดยกดเลือก "สมัครที่ตู้บุญเติม"
  2. เตรียมบัตรประชาชนและโทรศัพท์มือถือของท่านไปที่ตู้บุญเติมที่รองรับการยืนยันตัวตน
  3. เลือกเมนู "ทางรัฐ" แล้วทำตามขั้นตอนบอหน้าจอของตู้บุญเติม
  4. เสียบบัตรประชาชนของท่านที่ช่องเสียบบัตรประชาชนของตู้บุญเติม
  5. มื่อทำตามขั้นตอนที่ตู้บุญเติมเสร็จแล้ว ให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯ ทางรัฐ (กรุณาดึงบัตรประชาชนของท่านออกหลังจากดำเนินการเสร็จสิ้น)
  6. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปฯ ทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกด "เริ่มสแกนใบหน้า"
  7. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
  8. เมื่อผู้ใช้สแกนใบหน้าสำเร็จให้กด "สมัครสมาชิก"
  9. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว แล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยม จากนั้นกด "ยอมรับ"
  10. กรอกชื่อ "บัญชีผู้ใช้" และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด "ยืนยัน"
  11. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  12. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
  13. เปิดการใช้สแกนอัตลักษณ์บุคคล
  14. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกด "เริ่มใช้งาน"
  15. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที

วิธีที่ 4 การยืนยันตัวตนผ่าน ไปรษณีย์ไทย

ขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการการยืนยันตัวตน โดยกดเลือก "ยืนยันตัวตนที่ทำการไปรษณีย์"
  2. เตรียมบัตรประชาชน และโทรศัพท์มือถือของท่านไปยังที่ทำการไปรษณีย์ (สามารถใช้บริการได้ทุกสาขา)
  3. จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการ "ยืนยันตัวตน แอปฯ ทางรัฐ" และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
  4. เมื่อทำตามขั้นตอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และ ชื่อ-สกุล ในใบเสร็จ จากนั้นให้กดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯ ทางรัฐ
  5. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนการสแกนใบหน้าในแอปฯ ทางรัฐศึกษาข้อแนะนำแล้วกด "เริ่มสแกนใบหน้า"
  6. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
  7. เมื่อผู้ใช้งานสแกนใบหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้กด "สมัครสมาชิก"
  8. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัวแล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยม จากนั้นกด "ยอมรับ"
  9. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด "ยืนยัน"
  10. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  11. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
  12. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม "ยืนยัน"
  13. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกด "เริ่มใช้งาน"
  14. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที

วิธีที่ 5 ยืนยันตัวตนผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส 7-Eleven

  1. เปิดแอปฯ ทางรัฐ แล้วเลือกช่องทางการการยืนยันตัวตน โดยกดเลือก "ยืนยันตัวตนที่ 7-Eleven"
  2. ระบุเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์มือถือ จากนั้นกด "สร้าง QR Code"
  3. แจ้งพนักงานว่ามายืนยันตัวตนแอปฯ ทางรัฐ และแสดง QR Code ให้สแกน จากนั้นเสียบบัตรประชาชนที่เครื่องอ่านบัตร รับใบเสร็จแล้วกดลิงก์ที่ได้จาก SMS เพื่อดำเนินการต่อในแอปฯ ทางรัฐ
  4. หลังจากกดลิงก์ที่ได้รับทาง SMS จะเข้าสู่ขั้นตอนสแกนใบหน้าในแอปฯ ทางรัฐ ศึกษาข้อแนะนำแล้วกด "เริ่มสแกนใบหน้า"
  5. สแกนใบหน้าโดยจัดวางใบหน้าให้อยู่ในกรอบ
  6. เมื่อผู้ใช้งานสแกนใบหน้ายืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว ให้กด "สมัครสมาชิก"
  7. ศึกษาข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว แล้วกดทำเครื่องหมายที่ช่องสี่เหลี่ยม จากนั้นกด "ยอมรับ"
  8. กรอกชื่อ บัญชีผู้ใช้ และ รหัสผ่าน ตามคำแนะนำ แล้วกด "ยืนยัน"
  9. ระบุ Pin Code 6 หลัก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
  10. ระบุ Pin Code เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตน
  11. เปิดการใช้งานอัตลักษณ์บุคคล โดยกดปุ่ม "ใช้งาน"
  12. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้นแล้วกด "เริ่มใช้งาน"
  13. จากนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชันทางรัฐได้ทันที

ทางรัฐล่ม ใช้ไม่ได้ เปิด 5 วิธี ยืนยันตัวตน ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท

ลงทะเบียนแล้วได้เงินวันไหน

  • ได้รับเงินในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 ประมาณเดือนตุลาคม 2567 

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้ออะไรได้บ้าง?

  • สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผักสด ผลไม้ อาหารสด เครื่องจักสาน เป็นต้น
  • สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร ไข่ไก่ เป็นต้น
  • ยารักษาโรค เช่น ยาแก้ไข ยาแก้ท้องเสีย เป็นต้น
  • ธูปเทียนและเครื่องสักการะ ชุดถวายสังฆทาน เป็นต้น
  • เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กะปิ น้ำปลา ซอสปรุงรส เป็นต้น
  • สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ เป็นต้น
  • สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์พืช เป็นต้น

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้ออะไรไม่ได้บ้าง?

ข้อมูลล่าสุดวันที่ 1 สิงหาคม 2567 สินค้า Negative list ดังนี้

  • เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
  • โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน
  • ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม
  • บัตรกำนัล
  • บัตรเงินสด
  • ทองคำ
  • เพชร พลอย อัญมณี
  • น้ำมันเชื้อเพลิง
  • ก๊าซธรรมชาติ
  • ร้านทำผม
  • ร้านนวด
  • ร้านเสริมสวย
  • สลากกินแบ่งรัฐบาล
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ยาสูบ
  • กัญชา
  • กระท่อม
  • พืชกระท่อม