เปิดโฉม 'พะแมว' สัตว์ป่าหาดูยาก กระรอกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ทำความรู้จักกระรอกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เปิดโฉม "พะแมว" หรือ "พญากระรอกดำ" สัตว์ป่าหาดูยาก อาศัยอยู่ในป่าที่มีเรือนยอดไม้สูงใกล้ลำห้วย ป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง ออกหากินในเวลากลางวัน - นอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน มีความปราดเปรียวว่องไว ไม่ธรรมดา กระโดดไกล 22 ฟุต

รู้จัก "พะแมว" หรือ "พญากระรอกดำ" กระรอกที่ใหญ่ที่สุดที่พบในประเทศไทย 

พญากระรอกดำ Black giant squirrel, Malayan giant squirrel วิทยาศาสตร์ : Ratufa bicolor 

เป็นกระรอกชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในวงศ์ย่อยพญากระรอก (Ratufinae) เป็นกระรอกชนิดหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นกระรอกชนิดที่ใหญ่ที่สุดที่พบในประเทศไทย 

ลักษณะเด่นพะแมว/พญากระรอกดำ

หางยาวเป็นพวง ขนตามลำตัวและหางสีดำสนิท บางตัวอาจมีสะโพก หรือโคนหางออกสีน้ำตาล ขนบริเวณแก้มและท้องสีเหลือง เท้าหน้ามี 4 นิ้ว เท้าหลังมี 5 นิ้ว มีพฤติกรรมมักอาศัยอยู่ในป่าที่มีเรือนยอดไม้สูง เช่น ป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง มักพบเห็นอยู่ตามเรือนยอดไม้ที่รกทึบและใกล้ลำห้วย 

หากินในเวลากลางวันและหลับพักผ่อนในเวลากลางคืน มีความปราดเปรียวว่องไว สามารถกระโดดไปมาบนยอดไม้ได้ไกลถึง 22 ฟุต 

ฤดูผสมพันธุ์ของพะแมว

ปกติจะอาศัยอยู่ตามลำพัง ยกเว้นในฤดูผสมพันธุ์หรือมีลูกอ่อนที่อาจเห็นเป็นคู่หรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุได้ 2 ปี ตั้งท้องนาน 28 วัน ออกลูกครั้งละ 1-2 ตัว โดยที่ตัวเมียมีเต้านมทั้งหมด 3 คู่ 

การทำรังของ"พะแมว" หรือ "พญากระรอกดำ"

รังสร้างขึ้นโดยการนำกิ่งไม้สดมาขัดสานกันคล้ายรังนกขนาดใหญ่ และอาจจะมีรังได้มากกว่าหนึ่งรัง ทั้งนี้พญากระรอกดำ ยังมีชื่อเรียกอื่นอีกว่า "กระด่าง" ในภาษาใต้เรียก "พะแมว" พบในเส้นทางศึกษาธรรมชาติต้นไม้ใหญ่

อ้างอิง-ภาพ : ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช