ไขข้อสงสัย แท็กซี่ไฟว่าง 'สีเขียว - สีแดง' ต่างกันยังไง ขึ้นคันไหนอุ่นใจกว่า

ไขข้อสงสัย แท็กซี่ไฟว่าง 'สีเขียว - สีแดง' ต่างกันยังไง ขึ้นคันไหนอุ่นใจกว่า

กรมขนส่งทางบก ไขข้อสงสัย แท็กซี่ไฟว่าง 'สีเขียว กับ สีแดง' ต่างกันยังไง ขึ้นคันไหนอุ่นใจกว่า รถแท็กซี่คันไหนที่อยู่ภายใต้โครงการ TAXI OK ที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสาร (Emergency) กล้องหน้ารถ และระบบ GPS Tracking เป็นต้น

ไขข้อสงสัย แท็กซี่ไฟว่าง 'สีเขียว กับ สีแดง' ต่างกันยังไง ขึ้นคันไหนอุ่นใจกว่า รถแท็กซี่คันไหนที่อยู่ภายใต้โครงการ TAXI OK ของกรมขนส่งทางบก ที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสาร (Emergency) กล้องหน้ารถ และระบบ GPS Tracking เป็นต้น

ไขข้อสงสัย แท็กซี่ไฟว่าง \'สีเขียว - สีแดง\' ต่างกันยังไง ขึ้นคันไหนอุ่นใจกว่า

แท็กซี่ไฟว่าง 'สีเขียว กับ สีแดง' ต่างกันยังไง?

ในอดีต ไฟว่างบนรถแท็กซี่จะใช้สีแดงเป็นหลัก ตามกฎหมายของกรมขนส่งทางบก เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากระยะไกล แต่ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาระบบแท็กซี่เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการและความปลอดภัย โดยแยกไฟว่างออกเป็น 2 สี ดังนี้
 

แท็กซี่ไฟว่าง “สีเขียว”

เป็นรถแท็กซี่ ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการตามหลักเกณฑ์ภายใต้โครงการ TAXI OK

  • ไฟสัญญาณ “ว่าง” สีเขียว
  • มาตรโดยสารแบบ Real-time
  • แอปพลิเคชัน TAXI OK
  • โป๊ะไฟบนหลังคาแบบใหม่
  • ปุ่มฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสาร (Emergency)
  • กล้องบันทึกภาพในรถแบบ Snap Shot
  • ระบบ GPS Tracking

โครงการ TAXI OK เริ่มเปิดตัวในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่กรมการขนส่งทางบกมีข้อกำหนดให้รถแท็กซี่ทุกคันที่จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นมา โดยจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ส่วนควบเพื่อความปลอดภัยดังกล่าว

แท็กซี่ไฟว่าง “สีแดง”

  • รถแท็กซี่ทั่วไป ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ TAXI OK

ทั้งนี้ แท็กซี่ไฟว่าง “สีแดง” เป็นแท็กซี่ที่จดทะเบียนก่อนวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เพียงแต่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ TAXI OK ซึ่งยังคงเป็นรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีมาตรฐานภายใต้เงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบก

ไขข้อสงสัย แท็กซี่ไฟว่าง \'สีเขียว - สีแดง\' ต่างกันยังไง ขึ้นคันไหนอุ่นใจกว่า