ชป.เชียงใหม่ ยัน ระดับน้ำแม่น้ำปิง อยู่ในเกณฑ์ควบคุม แม้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
โครงการชลประทานเชียงใหม่ สำนักงานชลประทานที่ 1 ติดตามและตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำปิง ยืนยันระดับน้ำยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุม แม้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
วันนี้ (27 ส.ค. 67) จากอิทธิพลร่องมรสุมพัดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้น นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้มอบหมายให้ นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน พร้อมด้วย นายศิริฉัตร บัวพุทธา หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 8 ติดตามสถานการณ์ในแม่น้ำปิงและตรวจสอบควบคุมการระบายน้ำบริเวณ ปตร.ท่าวังตาล เพื่อป้องกันน้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่
นายชนม์ฐพัฒน์ เครือศรี เผยว่า สำนักงานชลประทานที่ 1 และโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้ติดตามสถานการณ์น้ำในช่วง 1-2 วันนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากบริเวณพื้นที่ต้นน้ำมีปริมาณฝนตกหนัก ปัจจุบันน้ำท่าทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ปกติ และได้มีการติดตามพระดับน้ำตั้งแต่สถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.20 อ.เชียงดาว จนถึงสถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.1 (สะพานนวรัฐ) อ.เมืองเชียงใหม่ น้ำจะใช้เวลาเดินทางจากต้นน้ำถึงตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 1 วันครึ่ง
ปัจจุบันสถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.20 อ.เชียงดาว ระดับน้ำเพียง 70 เซนติเมตร (คิดเป็น 14%) อัตราไหลของน้ำ 53 ลบ.ม.ต่อวินาที ถือว่าอยู่ในระดับต่ำสุด ซึ่งระดับสูงสุดรับได้ถึง 255 ลบ.ม.ต่อวินาที ถัดมาเป็นสถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.75 อ.แม่แตง วัดระดับน้ำได้ 2.42 ม. (คิดเป็น 35%) ส่วนสถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.67 อ.สันทราย ระดับน้ำอยู่ที่ 1.39 ม. (คิดเป็น 30%) ของลำน้ำ และที่สถานีตรวจวัดระดับน้ำ P.1 (สะพานนวรัฐ) อำเภอเมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ที่ 2.15 เมตร ซึ่งระดับวิกฤติจะอยู่ที่ 3.70 เมตร และกรมโยธาและผังเมือง ได้ดำเนินการเสริมตลิ่งเพิ่ม ดังนั้น ภาพรวมระดับน้ำในแม่น้ำปิงและลำน้ำสาขาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 45% ของลำน้ำ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 และโครงการชลประทานเชียงใหม่ ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเป็นรายชั่วโมง พบว่า ในห้วง 7 วันที่ผ่านมา พบระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มขึ้น จึงได้มีการบริหารจัดการน้ำผ่านประตูระบายน้ำท่าวังตาล เพื่อรักษาระดับน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุมและอยู่ต่ำกว่าตลิ่งในค่าวิกฤติ โดยได้เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ระบายน้ำอัตรา 180 ลบ.ม./วินาที และวันนี้ (27 สิงหาคม 2567) ระบายน้ำอัตรา 152 ลบ.ม./วินาที ระบายน้ำน้อยลง เพื่อรักษาระดับน้ำไม่ให้กระทบต่อสถานีสูบน้ำประปา กลุ่มผู้ใช้น้ำด้านเหนือ และรักษาตลิ่งในแม่น้ำปิง
สำหรับประตูระบายน้ำท่าวังตาล มีศักยภาพในการระบายน้ำออกจากตัวเมืองเชียงใหม่อัตรา 1,200 ลบ.ม./วินาที เพียงพอต่อการรองรับน้ำ แต่ต้องดูท้ายน้ำปิงประกอบด้วย เนื่องจากมีสะพานและอาคารที่ยื่นมาในลำน้ำเป็นอุปสรรคทำให้สภาพลำน้ำด้านท้ายแคบลง ส่งผลให้ไม่สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะมีน้ำเอ่อล้นขึ้นมาได้ ในขณะที่ด้านหน้าประตูระบายน้ำท่าวังตาลมี 3 ฝายหินเดิม เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่น้ำจะไหลผ่านได้ไม่สะดวก
ส่วนด้านท้ายน้ำ ตั้งแต่ฝายชลขันธ์พินิจ จ.ลำพูน, ฝายหนองสลีก อ.ป่าซาง จ.ลำพูน, ประตูระบายน้ำดอยน้อย อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่, ฝายวังปาน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน และประตูระบายน้ำแม่สอย อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ควบคุม