ลูกจ้างสาว แอบย่องเบาไขตู้เซฟฉกเงินเจ้านายร้านอาหาร รพ.ชื่อดัง บุกจับแล้ว
ตำรวจสืบนครบาล ร่วมชุดสืบ 115 บุกจับกุม ลูกจ้างสาวขโมยกุญแจ แอบย่องเบาไขตู้เซฟแอบฉกเงินเจ้านายร้านอาหาร โรงพยาบาลชื่อดัง
กรณีลูกจ้างสาวขโมยกุญแจ แอบย่องเบาไขตู้เซฟแอบฉกเงินเจ้านาย กว่า 1 แสนบาท เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกับนักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 จับกุมตัวนางสาวเมธาวี อายุ 28 ปี ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3755/2567 ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2567
ข้อหา ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง จับกุมบริเวณ บ้านพัก ถนนเศษฐศิริ แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ
ลูกจ้างสาวขโมยกุญแจ แอบย่องเบาไขตู้เซฟแอบฉกเงินเจ้านาย
พฤติการณ์กล่าวคือ นายจ้างอยากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ที่แฝงตัวมาในคราบของลูกจ้างสาว เฉกเช่นกับ น.ส.เมธาวี หรือ เมย์ สาววัย 28 ปี ที่แฝงตัวเข้ามาสมัครงานเป็นพนักงานร้านอาหาร ภายในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งย่านพระราม 6
ไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่าเธอคนนี้ มีพฤติกรรมแอบสังเกตการณ์ ว่าเงินที่ขายของได้ในร้านทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในตู้เซฟ ก่อนที่เธอจะอาศัยวิชาโจร สะกดรอยผู้จัดการร้าน จนล่วงรู้ถึงจุดซ่อนกุญแจตู้เซฟ พอถึงฤกษ์งามยามโจรเป็นใจ
เธออาศัยจังหวะเลิกงานที่ทุกคนในร้านกลับบ้านกันหมด รวมทั้งเธอเองที่เดินออกจากร้านไปด้วย ก่อนจะทำทีแยกทางทำท่าจะกลับบ้าน แต่ปรากฎเธอเดินย้อนกลับมาที่ร้านอาหาร ที่อยู่ในสภาพไร้ผู้คน เธอเดินเข้ามายังจุดที่ได้สะกดรอยจนทราบพิกัดที่ซ่อนกุญแจ ก่อนจะคว้ากุญแจตู้เซฟ บุกไปไขและฉกเงินสดภายในตู้ ไปมูลค่ากว่า 100,000 บาท
หลังก่อเหตุ เธอไม่เคยมาทำงานที่ร้านอาหารแห่งนี้อีกเลย หลังจากที่ทราบเรื่อง ผู้จัดการร้านตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีโดยทันที ซึ่งต่อมา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ออกหมายจับผู้ต้องรายนี้ไว้แล้ว แต่ยังคงลอยนวล หลุดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไป
ล่าสุด เรื่องถึงหู พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้รับเรื่องร้องเรียน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงสั่งการให้ “สารวัตรแจ๊ะ” ในฐานะครูพี่เลี้ยง ขน “ลูกศิษย์” นักเรียนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นที่ 115 หรือ “สืบ115” ลงพื้นที่แกะรอยจนสืบทราบว่า “นักย่องเบาสาว” รายนี้ หลบหนีมาพึ่งใบบุญของสามี ที่อาศัยอยู่ย่านถนนเศษฐศิริ จนสามารถรวบตัวได้ในที่สุด
ในชั้นจับกุม น.ส.เมธาวีให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ยอมรับทุกข้อกล่าวหา เพราะยอมรับว่าตนได้ขโมยกุญแจไปไขตู้เซฟ ก่อนจะลักเอาเงินสดจำนวน 100,000 บาทไปจริง อ้าง ตนมีความจำเป็นต้องใช้เงินไปเลี้ยงลูก จึงต้องเลือกหนทางนี้” ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดชฯ กล่าวถึงเหตุการณ์ในคดีนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และเตือนภัย ไปยังผู้ประกอบการร้านค้า ว่า สมัยนี้ความไว้วางใจนั้นหายาก โปรดระมัดระวัง ก่อนที่จะให้ใครล่วงรู้ถึงที่เก็บซ่อนทรัพย์สิน โดยเฉพาะ เงินที่ได้จากการขายของหรือประกอบธุรกิจ
โปรดเพิ่มความระมัดระวัง และหมั่นตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์อยู่เสมอ แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องหมั่นสังเกตุพฤติกรรมของลูกจ้างภายในร้าน รวมถึงการตรวจสอบประวัติการต้องโทษเสียก่อน หรือหากผู้ใดมีเบาะแสหรือทราบว่ามีการกระทำพฤติกรรมในลักษณะนี้อีก
โปรดแจ้งเข้ามาที่เพจ สืบนครบาลIDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.