ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนเมียนมา ยึดสายเคเบิลอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนเมียนมา ยึดสายเคเบิลอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

สนธิกำลังทหารตำรวจ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนเมียนมา ตรวจยึดสายเคเบิลส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ข้ามแดนผิดกฎหมาย

กรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชายแดนเมียนมา สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้สั่งการให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกประเภท โดยเน้นไปที่พื้นที่แนวชายแดน ที่ผ่านมาตำรวจในพื้นที่ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนอย่างจริงจัง และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาดทุกราย

ตามนโยบาย พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.วีระพล กันธวงศ์ รอง ผกก.2 บก.สอท.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้มงวดการออกตรวจพื้นที่แนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง

และเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 เวลาช่วงบ่าย เจ้าพนักงานตำรวจ  กก.2 บก.สอท.4 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ราชมนู, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด, ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด

ได้ร่วมกันออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบได้พบกลุ่มผู้ต้องสงสัยจำนวนหลายรายลักษณะกำลังพยายามนำวัตถุต้องสงสัยข้ามแม่น้ำเมย บริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ตรงข้ามเมืองชเว่ก๊กโก๊ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมาร์

จึงได้เข้าทำการตรวจสอบกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว สามารถยึดของกลางดังต่อไปนี้

 1. สายเคเบิล จำนวน 3 เส้น                 
  2. กล่องสีดำสำหรับต่อสายเคเบิล หมายเลข กล่อง UF-3042S TOT CODE 70000002 จำนวน 1 กล่อง
  3. เชือกสีขาว จำนวน 3 ขด
  4. ประแจคอมือ จำนวน 2 ตัว
  5. รอก จำนวน 2 ตัว
  6. ที่สูบลม จำนวน 1 อัน
  7. สายสลิง จำนวน 1 ขด
  8. ท่อพีวีซี พร้อมที่ยิง จำนวน 1 ชุด                                               
  9. ท่อเหล็ก ยาวประมาณ 3 เมตร จำนวน 6 ท่อน                             
  10. ท่อเหล็ก ยาวประมาณ 7 เมตร จำนวน 12 ท่อน  

เมื่อกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าวทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ได้พากันวิ่งหลบหนีไปคนละทางทิ้งอุปกรณ์ไว้บริเวณริมตลิ่งแม่น้ำเมย

จากการตรวจสอบพบ สายเคเบิลใยแก้วส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงถูกสอดในท่อเหล็กเชื่อมติดกันเป็นเส้นโดยใช้แท่งปูนเป็นตัวถ่วงให้จมลงไปในน้ำเพื่อเชื่อมต่อสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

จึงได้ทำการตัดสายสัญญาณและทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด และได้นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด และประสานเจ้าหน้าที่ กสทช.เขต 31 เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย