จับเจ้าพ่อซิมผีออนไลน์รายใหญ่ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มหาโจรหลอกลวงปชช.

จับเจ้าพ่อซิมผีออนไลน์รายใหญ่ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มหาโจรหลอกลวงปชช.

ล่า! บุกจับเจ้าพ่อซิมผีออนไลน์รายใหญ่ ลุยเดินหน้าตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์มิจฉาชีพ ปราบมหาโจรหลอกลวงประชาชน

กรณีเจ้าพ่อซิมผีออนไลน์รายใหญ่ ล่าสุด ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพและอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน โดยเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และรับมือกับอาชญากรรมออนไลน์อย่างรวดเร็ว

ต่อมา พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 สั่งการให้

พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ในสังกัด กก.2 บก.สอท.2

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบซื้อขายหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (ซิมม้า) จากการสืบสวนพบว่า ผู้ใช้ Facebook ได้โพสต์ข้อความ ขายหมายเลขโทรศัพท์ ลงในกลุ่มชื่อว่า “ซื้อ-ขาย (ซิมลงทะเบียนและไม่ลงทะเบียน) ผ่านทางแอดมินเท่านั้น” โดยโพสต์ข้อความว่า “มีดีแทคลงทะเบียนแล้ว 200 เบอร์สนใจทักแชท มีเก็บปลายทางหรือส่งแกร๊ป” โดยจะขายซิมที่ลงทะเบียนแล้ว 120 บาท และซิมที่ยังไม่ลงทะเบียน 80 บาท

ซึ่งภายหลังสืบสวนจนทราบว่า ผู้ใช้ Facebook ดังกล่าวคือ นายไพศาลฯ เป็นเอเย่นต์ลักลอบขายซิมผี ซิมที่การลงทะเบียนใช้งานโดยบุคคลอื่น

 ซึ่งซิมผีเหล่านี้อาจใช้ในการกระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวมถึงการนำไปลงทะเบียนแอปพลิเคชั่น Mobile Banking เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 จึงได้ทำการล่อซื้อและนำไปสู่การขอออกหมายจับ นายไพศาลฯ ของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ 914/2567 ลงวันที่ 23 กันยายน 2567 และหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ 572/2567 ลงวันที่ 23 กันยายน 2567

โดยได้นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรีฯ เข้าตรวจค้นบ้านพัก ในเขตสะพานสูง กทม. เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปถึงบ้านที่พักอาศัยดังกล่าว พบ นายไพศาลฯ อายุ 35 ปี โดยยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ผลการตรวจค้น พบซิมหมายเลขโทรศัพท์มือถือ จำนวน 194 ซิม โดยยอมรับว่าได้ซื้อซิมเปล่ามาประกาศขายออนไลน์ ผ่าน Facebook

โดยว่าจ้างให้บุคคลอื่นลงทะเบียนซิมให้โดยจะขายซิมที่ลงทะเบียนแล้ว 120 บาท และซิมที่ยังไม่ลงทะเบียน 80 บาท จากการสอบถาม นายไพศาลฯ ยอมรับว่าตนเป็นผู้โพสต์ขายซิม หมายเลขโทรศัพท์จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการตรวจยึดและนำตัวผู้ต้องหามาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.2 ดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2 กล่าวว่าการจับกุมครั้งนี้ เป็นการตัดวงจรมิจฉาชีพ แก๊งคอลเซ็นเตอร์บนโลกออนไลน์ ซึ่งมักนำซิมดังกล่าวไปใช้ในการอำพรางตัวตนผู้ใช้ เพื่อหลอกลวงผู้อื่นหรือนำไปร่วมกับ Mobile Banking เพื่อโอนเงินเป็นทอดๆ

โดยขอประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิด พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 11 ผู้ใดเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด เพื่อให้มีการซื้อขายหมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 แสน ถึง 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ