เจ้าท่าฯ ประกาศเตือนเรือขนส่งสินค้า เพิ่มความระมัดระวัง หลังน้ำไหลเชี่ยว

วันนี้ (29 ก.ย. 67) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ออกประกาศฉบับที่ 2 เรื่องการควบคุมการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก เป็นการเฉพาะชั่วคราว สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า หากกรมชลประทาน มีความจำเป็นที่จะต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (c.19) ในอัตรามากกว่า 1,600 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือเขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในอัตรามากกว่า 500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสูงขึ้นในแม่น้ำป่าสัก อาจล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน ที่อยู่สองริมฝั่งแม่น้ำ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ประกอบกับมีกระแสน้ำไหลเชี่ยวและรุนแรงมาก อาจเกิดอุบัติเหตุทางน้ำได้ จึงต้องเพิ่มมาตรการป้องกันอุบัติเหตุทางน้ำและป้องกันมิให้คลื่นจากเรือ ลาก จูง และเรือลำเลียงสินค้า ขึ้น-ล่อง ในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงประกาศ

1.) เขตควบคุมการจราจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน อำเภอพระนครศรีอยุธยา ขึ้นไปจนถึงจังหวัดอ่างทองและตั้งแต่บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร แม่น้ำป่าสัก อำเภอพระนครศรีอยุธยา ขึ้นไปจนถึงอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

2.) ออกคำสั่งการเดินเรือ ให้เรือลากจูงลำเลียงสินค้า เดินเรือตามน้ำและทำการลากจูงเรือลำเลียงสินค้าได้ไม่เกิน พวงละ 3 ลำ ห้ามบรรทุกสินค้าเกินกว่าจำนวนที่เจ้าท่าอนุญาตไว้ โดยให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษและให้ผู้ควบคุมเรือสวมใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลาที่ปฏิบัติงานด้วย

ให้เรือยนต์ลากจูงซึ่งทำการลากจูงเรือลำเลียงสินค้า ซึ่งเดินเรือในบริเวณเขตควบคุมการจราจรทางน้ำด้วยความระมัดระวัง ต้องมีเรือดึงท้ายหรือโต่งท้าย ซึ่งมีกำลังของเครื่องจักรไม่น้อยกว่ากำลังของเครื่องจักรเรือลากจูง รวมถึงต้องให้มีจัดคนประจำเรืออย่างน้อย 1 คน ประจำอยู่ที่หัวเรือลำเสียงทุกลำ และให้ผู้ควบคุมเรือกำกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ภายนอกตัวเรือสวมใส่ชูชีพตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน

ขณะที่สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทอง ยังคงพร่องน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนต่อเนื่อง ล่าสุดข้อมูลจากศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคกลาง รายงานระดับน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทอยู่ที่ 1,899ลบ.เมตร/วินาที ทำให้ระดับน้ำที่สถานีชลมาตร C7A สำนักชลประทานที่ 12 หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทองระดับน้ำอยู่ที่ 7.34 เมตร/รทก. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 0.32 เมตร

โดยทางจังหวัดอ่างทองขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งพื้นที่อ่างทองมีน้ำท่วมแล้ว 2 อำเภอคือ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก และ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ มีบ้านเรือนได้นับผลกระทบแล้วกว่า 200 หลังคาเรือน