เตือน ต.เหมืองง่า จ.ลำพูน เฝ้าระวังน้ำสูง กรมชลฯ เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำกวง
ศปช. เตือน ต.เหมืองง่า จ.ลำพูน เฝ้าระวังน้ำสูงค่ำนี้ หลังเป็นพื้นที่รับน้ำต่อ กรมชลฯ ระดมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายลงแม่น้ำกวง
วันที่ 10 ตุลาคม 2567 เวลา 17.15 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช.ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ศปช. ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ที่ จ.ลำพูน ขณะนี้ ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.เมืองลำพูน โดยเฉพาะที่ ต.เหมืองง่า ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำต่อจาก ต.อุโมงค์ และ ต.หนองช้างคืน ก่อนไหลลงคลองสาขาและแม่น้ำกวง โดย กรมชลประทาน ได้ระดมติดตั้งเครื่องสูบน้ำตามจุดต่างๆ และเปิดประตูระบายเหมืองปิงห่าง เร่งระบายน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด โดยขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และควรยกของขึ้นที่สูง
"ระดับน้ำในพื้นที่ ต.อุโมงค์ และ ต.หนองช้างคืน ค่อยๆ ลดลง และปริมาณน้ำยังไหลต่อไปยังพื้นที่ ต.เหมืองง่า ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะเป็นพื้นที่รับน้ำ ซึ่งขณะนี้หลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว และยังมีเรือผลักดันน้ำของกองทัพเรือ อีก 20 ลำ มาช่วยผลักดันน้ำ ที่จุดสะพานเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ. 2540 อ.ป่าซาง จ.ลำพูน จุดเชื่อมต่อกับ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำ เพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำปิง"
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า บ่ายวันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างประชุมอาเซียนที่ประเทศลาว ได้รับรายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ลงพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) หนองช้างคืน อ.เมืองลำพูน ให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบอุทกภัย ยืนยันทุกภาคส่วนเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และนายกฯได้ฝากความห่วงใย ขอให้มีกำลังใจฝ่าฟันเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งการปรับหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท และค่าช่วยล้างดินโคลนบ้านน้ำท่วมหลังละ 10,000 บาท เป็นต้น
สำหรับถนนทางหลวงชนบทในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น้ำหลาก ดินถล่ม ได้รับรายงานว่า สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 10 (เชียงใหม่) แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายทางเลี่ยง อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย พร้อมสัญญาณไฟ เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรไปมาทราบ และระดมเจ้าหน้าที่-เครื่องมือเข้าเคลียร์ทุกสายทางที่ยังมีดินโคลนถล่มทับเส้นทาง จนสามารถเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรได้แล้ว ยังเหลือสายทางที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.สุโขทัย รวม 8 สายทาง สัญจรผ่านได้ 7 สายทาง และยังผ่านไม่ได้ 1 สายทาง
ส่วนการฟื้นฟู อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังสถานการณ์น้ำคลี่คลาย หลายหน่วยงานลงพื้นที่เร่งฟื้นฟูต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้กลับมาเปิดบริการประชาชนเร็วที่สุด ล่าสุด สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงราย ระดมเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ตัดแต่งกิ่งไม้ ปรับภูมิทัศน์ และเก็บขยะในพื้นที่สาธารณะ 3 แห่งหลัก ที่ถนนพหลโยธิน บริเวณหน้าด่านพรมแดนแม่สายถึงแยกมูลนิธิกวงเม้ง, บริเวณสวนสาธารณะพรหมมหาราช และสถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.แม่สาย ขณะนี้สามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ตามปกติแล้ว