ผู้นำกับความรับผิดชอบต่อสังคม: THE ICON GROUP รับชอบ ไม่รับผิด
หัวเรือใหญ่ของ ดิ ไอคอน กรุ๊ป อย่าง “บอสพอล” ถูกตั้งคำถามจากสื่อและสาธารณชนซึ่ง “บอสพอล” ไม่ยอมรับว่าเป็นธุรกิจขายตรงโดยโยนความรับผิดชอบไปที่ตัวแทนจำหน่ายว่า การเน้นหาลูกทีมเป็นกลยุทธ์ของผู้แทนจำหน่ายซึ่งทางบริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น
ประเด็นทางสังคมที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้คงหนีไม่พ้นกรณีของ “The Icon Group” ธุรกิจขายตรงหรือธุรกิจออนไลน์ที่ถูกตั้งคำถามเป็นจำนวนมาก
ไล่เรียงตั้งแต่ชาวบ้านร้านตลาดไปจนถึงผู้นำทางสังคม ผู้นำทางธุรกิจ และผู้นำทางการเมือง และสื่อโซเซียลมีเดียต่างนำเสนอข่าวสารไปในทิศทางที่หลากหลายจนเกิดเป็น Talk of The Town ชั่วข้ามคืนว่าธุรกิจแบบนี้เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือไม่
เมื่อบอสพอลถูกตั้งคำถามว่า บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป เป็นบริษัทขายตรงหรือไม่ คำตอบที่ได้คือ “ธุรกิจตลาดแบบตรง” (Direct Marketing) โดยอ้างว่าได้จนทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สามารถขายได้ทุกช่องทางทั้งออนไลน์
สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ได้ให้ความหมายของตลาดแบบตรงว่า (Direct Marketing) หมายถึง การทำตลาดสินค้าหรือบริการในลักษณะของการสื่อสารข้อมูลเพื่อเสนอขายสินค้าหรือบริการโดยตรงต่อผู้บริโภค ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทางและมุ่งหวังให้ผู้บริโภคแต่ละรายตอบกลับเพื่อซื้อสินค้า หรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจ
ส่วนการขายตรง (Direct Sales) หมายถึง ระบบการขายโดยผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือตัวแทนขายเพื่อนำเสนอขายสินค้าหรือบริการต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยหรือสถานที่ทำงานของผู้บริโภคหรือของผู้อื่น หรือสถานที่อื่นที่มิใช่สถานที่ประกอบการค้าเป็นปกติ
การขายตรงจึงเป็นยุทธวิธีที่เจาะจงถึงผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายซึ่งมีความเหมาะสมกับสภาพของตลาดปัจจุบัน เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี
ทั้งนี้ บอสพอล ยอมรับว่ามีคนที่ถูกเรียกว่า “บอส” จำนวน 10 คน เป็นตัวแทนจำหน่ายจากบริษัทแต่ละคนต้องดูแลและจัดการทีมของตนเอง และให้สัมภาณ์เพิ่มเติมว่า
“ธุรกิจของเขาไม่ใช่การขายตรง แต่เป็นการทำการตลาดแบบตรงผ่านช่องทางออนไลน์ไปยังตัวแทนจำหน่ายที่เข้ามาซื้อสินค้า เนื่องจากดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 7 มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 4 แสนคน จึงดูเหมือนว่าเยอะทำให้ดูใกล้เคียงกับการขายตรง"
เรื่องร้องเรียนที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการลงสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ในราคา 98 บาท ซึ่งคอร์สเรียนดังกล่าวมีการเสนอแผนการลงทุนให้เปิดบิลกับทางบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป เริ่มตั้นตั้งแต่ 2,500 -250,000 บาท ขณะเดียวกันยังต้องเสียค่าโฆษณาเพื่อหาลูกค้าและลูกทีมอีกด้วย
ประเด็นสำคัญคือสินค้าขายไม่ได้ตามที่บริษัทได้โฆษณาไว้ แต่มุ่งประเด็นไปที่การหาลูกทีมมากกว่าการขายสินค้า
นอกจากนั้น ยังมีอินฟลูเอนเชอร์ที่มีชื่อเสียง หรือเรียกบอสดาราอีกเป็นจำนวนมาก เพราะ Influencer ในสังคมมีชื่อเสียงและสามารถสื่อสารให้เกิดความน่าเชื่อถือจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะชักชวนให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและเข้าร่วมธุรกิจดังกล่าว
ซึ่งบอสพอลไม่ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการโฆษณาเกินจริงและหลอกลวงผู้บริโภค
จากประเด็นทางสังคมในเบื้องต้นเมื่อวิเคราะห์ความเป็น “ผู้นำองค์กร” ของบอสพอล เมื่อออกรายการทีวีและให้สัมภาษณ์ในประเด็นต่าง ๆ มีการร้องไห้คร่ำครวญ การทวนคำถามซ้ำในประเด็นที่ตนเองเข้าใจอยู่แล้วแต่แกล้งทำเป็นว่าไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่รับรู้ รับชอบแต่ไม่ยอมรับผิด
แสดงให้เห็นถึงการขาดภาวะผู้นำและเป็นผู้นำที่ล้มเหลวแบบฉับพลัน ทั้งที่นำพาองค์กรเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่เมื่อเข้าสู่ภาวะวิกฤติเกิดปัญอุปสรรคขึ้นกลับไม่สามารถอธิบายและให้คำตอบแก่สังคมและผู้เสียหายได้ วิเคราะห์ได้ดังนี้
1. ไม่เข้าใจบทบาทของความเป็นผู้นำอย่างแท้จริง ซึ่งผู้นำที่ดีจะต้องอธิบายได้ว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นและจะแก้ไขปัญหาอย่างไรไม่ใช่เลี่ยงบาลี ทวนคำถาม แกล้งไม่รู้
2. เมื่อเกิดปัญหาในฐานะบอสใหญ่ต้องให้บอสทั้งหมดรวมถึงบอสดารา ออกมาชี้แจงทุกประเด็กทุกข้อสงสัยที่สังคมตั้งคำถาม ไม่ใช่ให้พูดตามสคริปต์ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จบีบน้ำตาซึ่งไม่ใช่วิสัยของผู้นำที่เป็นวิญญูชนทำกัน
3. เป็นคนหลงในอำนาจคิดว่าตนเองมี Connection ที่จะสามารถเป็นเกราะคุ้มกันเมื่อเกิดวิกฤติปัญหา ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐบางคน (และเจ้าหน้าที่รัฐบางคนก็เลวพอที่จะรับเงินสินบนนั้น) ทำให้หยิ่งยะโสคิดว่าด้วยอำนาจเงินไม่มีใครทำอะไรตนได้
4. ไม่สามารถให้ Feedback แก่สังคมและแก่ผู้ร่วมธุรกิจได้ว่า “ทำไมสินค้าขายไม่ได้แต่เจ้าของธุรกิจกลับรวยขึ้นแบบก้าวกระโดด” กลับโยนความผิดไปให้แม่ข่ายว่าเป็นกลยุทธ์การสร้างทีมซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของบริษัท
5. มีการสื่อสารที่แย่ พยายามสร้างความสับสนให้ผู้ฟังมีลักษณะเป็นคน 2 อารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ซึ่งการเป็นผู้นำวิธีการสื่อสารต้องเคลียร์และต้องหมดจดทั้งคำพูดและการกระทำ
เป็นที่เข้าใจว่าเข้าว่า “ปุถุชน” ย่อมมีความผิดพลาดจากการกระทำ การพูดและการคิด ดังโบราณท่านว่า “สิบตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง”
ปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ จงแสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำโดยการแก้ปัญหาไม่ใช่การร้อยเรียงถ้อยคำยียวนกวนประสาทซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหา
เพราะหลักสำคัญที่แสดงออกถึงความเป็นผู้นำคือลงมือแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที เพราะความเป็นผู้นำคือการกระทำไม่ใช่ตำแหน่ง “Leader is action not position”