คดี 'ดิไอคอน' ล่าสุด ยอดผู้เสียหาย พุ่ง 5.6 พันราย ความเสียหายแตะ 1,611 ล้าน

คดี 'ดิไอคอน' ล่าสุด ยอดผู้เสียหาย พุ่ง 5.6 พันราย ความเสียหายแตะ 1,611 ล้าน

ตำรวจสอบสวนกลาง อัปเดต คดี ดิไอคอน ล่าสุด ผู้เสียหายเข้าให้ปากคำแล้วทั้งสิ้น 5,648 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,611 ล้านบาท ส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 225 ล้านบาท

วันนี้ (20 ต.ค. 67) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แจ้งความคืบหน้าคดี The Icon Group ยอดผู้เสียหาย หลอกลวงลงทุน ของบริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 19 ตุลาคม 2567 มีผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 165 ราย มูลค่าความเสียหาย 55.7 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 10-20 ตุลาคม 2567 สรุปยอด ณ เวลา 15.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 2,875 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 979 ล้านบาทเศษ

ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2567 รวมผู้เสียหาย 892 ราย มูลค่าความเสียหาย 207 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2567 มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 2,773 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 632 ล้านบาทเศษ

ปัจจุบัน ยอดรวมผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 5,648 ราย มูลค่าความเสียหาย 1,611 ล้านบาทเศษ

ในส่วนของทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ทำการตรวจยึด รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 225 ล้านบาท มีดังนี้

  1. รถยนต์จำนวน 29 คัน
  2. บ้านและที่ดิน จำนวน 3 แปลง
  3. เงินสด จำนวน 7,524,000 บาท
  4. ทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ จำนวน 151 รายการ ได้แก่ นาฬิกา และของแบรนด์เนมต่างๆ
  5. อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก

ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทุกกองบัญชาการเปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์คดีดิไอคอน กรุ๊ป ทั่วประเทศ ในวันที่ 18 ตุลาคม 2567 โดยมีศูนย์รับแจ้งเหตุของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเป็นโมเดลต้นแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้เสียหาย ลดความยุ่งยากในการแจ้งความ ทั้งยังกำชับให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบดูแลการรับแจ้งความอย่างใกล้ชิด มิให้มีการปฏิเสธการรับแจ้งความโดยเด็ดขาด
 

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทุกนาย อยู่ระหว่างเร่งรัดสรุปข้อมูลทั้งจากการสอบปากคำผู้เสียหาย ข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน และข้อมูลจากวัตถุพยานต่างๆ ตลอดจนรับข้อมูลการสอบปากคำผู้เสียหายจากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ทั่วประเทศ หากมีความคืบหน้าสำคัญเพิ่มเติมจะแถลงให้สื่อมวลชนทราบในครั้งต่อไป

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งเตือนว่าทรัพย์สินอื่นของผู้ต้องหา ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน นั้น หากผู้ใดโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลัษณะที่แท้จริงการได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือมีการได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ย่อมมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจั้งปรับ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอแจ้งประชาสัมพันธ์กรณีมีข้อสงสัย ต้องการแจ้งเบาะแส ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับกรณีหลอกลวงขายทองรูปพรรณ ของ น.ส.กรกนก-นายกานต์พล และกรณีการขายตรงของบริษัท“ดิไอคอนกรุ๊ป” สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วน 1599

ทั้งนี้หากมีข้อมูลเบาะแสเพิ่มเติมกรณีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สามารถแจ้งมาได้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินการต่อไป