หลอกเหยื่อลงทุนเว็บออนไลน์ สูญเงินเกือบแสน ลุยจับบัญชีม้า

หลอกเหยื่อลงทุนเว็บออนไลน์ สูญเงินเกือบแสน ลุยจับบัญชีม้า

ตำรวจสืบนครบาล รวบบัญชีม้ามิจฉาชีพหลอกเหยื่อลงทุนเว็บออนไลน์สูญเงินเกือบแสน

กรณีสืบนครบาล รวบบัญชีม้า มิจฉาชีพ หลอกเหยื่อลงทุน เว็บออนไลน์สูญเงินเกือบแสน

การปราบปรามอาชญากรรมผู้กระทำความผิดทางอาญาในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน โดยเฉพาะองค์กรอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีพฤติการณ์ฉ้อโกง หรือหลอกลวงประชานในสังคม จนสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนเป็นวงกว้าง

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวนารีญา หรือ ออย อายุ 35 ปี หมายจับของศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1383/2567 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2567 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” จับกุมได้ที่ ภายในตลาดแห่งหนึ่ง ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี

จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษ พบว่า ผู้ถูกจับ ยังเป็นบุคคลตามหมายจับอีก 2 หมาย ได้แก่

1. หมายจับของศาลจังหวัดกระบี่ ที่ จ.67/2567 ลงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” มูลค่าความเสียหายเป็นเงินเกือน 800,000 บาท

2. หมายจับของศาลจังหวัดเชียงราย ที่ จ.375/2566 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดอันมิใช่ประชาชน”

พฤติการณ์กล่าวคือ ตามวันเวลาเกิดเหตุ ช่วงประมาณ กลางเดือน ก.ค.66 ผู้เสียหายได้รู้จักกับเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ ต่อมาได้มีการชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง หากลงทุน 300,000 บาท จะได้รับผลตอบแทนจำนวน 3,000 บาท ภายใน 1 วัน และหากลงทุนมากขึ้น ก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้นตามลำดับ จนทำให้ผู้เสียหายสนใจและติดต่อร่วมลงทุนใน เว็บไปซด์ Wee-th.com และได้รู้จักมีผู้ใช้ชื่อไลน์ว่า “Weex” แนะนำการร่วมลงทุน โดยโอนเงินเข้าบัญชีม้าจำนวนหลายรายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 95,000 บาท แต่เมื่อผู้เสียหายจะต้องการขอเงินคืน ปรากฏว่าไม่สามารถทอนเงินดังกล่าวได้ จนเชื่อว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นางสาวนารีญาฯ ได้ตามวันเวลาจับกุม จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การภาคเสธว่า ตนได้รับจ้างเปิดบัญชีม้าดังกล่าวจริง แต่ไม่ทราบว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะนำบัญชีของตนไปใช้ในการหลอกลวงดังกล่าวแต่อย่างใด

โดยให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อประมาณ กลางปี 2565 ขณะนั้นตนตกงาน ไม่มีงานทำ และไม่มีเงินติดตัว จึงได้ลองงานหาในช่องทางออนไลน์ facebook จนพบกับกลุ่มซื้อขายบัญชี จนได้ทักไป และได้มีบุคคลเข้ามาติดต่อและชักชวนให้เปิดบัญชีออนไลน์ ด้วยเหตุที่ตกงานและไม่มีทางเลือก ตนจึงสมัครใจเปิดบัญชีม้าให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวจำนวน 2 บัญชี อาทิ ธนาคาร ยูโอบี และธนาคาร กสิกรไทย โดยได้รับค่าตอบแทนการเปิดบัญชีๆละ 300 บาท

ซึ่งต่อมาภายหลังพบว่า ในแต่ละวันบัญชีทั้งสองดังกล่าวมีรายงานโอนเงินเข้าเป็นจำนวนมากและหลายรายการ ตนจึงได้ทำเรื่องปิดบัญชี และคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนางสาวนารีญาฯ นำส่ง พงส.สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฝากเตือนไปยังประชาชนและบุคคลทั่วไปทุกท่าน ควรระลึก และมีสติทุกครั้ง ก่อนที่ท่านจะเปิดบัญชีธนาคาร ให้แก่บุคคลอื่น บุคคลแปลกหน้า ที่ท่านไม่รู้จัก หรือเพิ่งจะรู้จัก หรือบุคคลที่เคยพูดคุยและติดต่อทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยให้ท่านพึงระลึกไว้เสมอว่า บุคคลเหล่านี้คือ “มิจฉาชีพ” ที่จ้องจะหาผลประโยชน์จากนั้น มิฉะนั้นท่านอาจตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพพวกนี้ หรือที่เรียกว่า “บัญชีม้า” ก็เป็นไปได้

ซึ่งถือว่าท่านอาจตกเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษทั้งโทษจำและโทษปรับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากท่านพบเห็นเหตุสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.