บุกจับกุมแก๊งนำเข้ารถหรูคาบ้านพัก เสียหายกว่า 10 ล้าน

บุกจับกุมแก๊งนำเข้ารถหรูคาบ้านพัก เสียหายกว่า 10 ล้าน

เจ้าหน้าที่ DSI จับกุมผู้ต้องหา คดีนำเข้ารถหรูคาบ้านพักใน จ.พัทลุง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

กรณีเจ้าหน้าที่ DSI จับกุมผู้ต้องหา คดีนำเข้ารถหรู คาบ้านพักใน จ.พัทลุง มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 06.45 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว

โดยชุดปฏิบัติการที่ 3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเขาชัยสน ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา นายรามนุชิต (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 933/2567 ลงวันที่ 6 มีนาคม 2567

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสีย สำหรับของนั้น ๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณบ้านในตำบลควนขนุน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่า ต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ให้ผู้ต้องหา ได้รับทราบแล้ว

รวมทั้งแจ้งพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง และนายอำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง และได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 85/2565 ของสำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ซึ่งนายรามนุชิตฯ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกับบริษัท โฮม เทรดดิ้ง จำกัด นำเข้ารถยนต์หรูโดยเลี่ยงภาษีทำให้รัฐได้รับความเสียหายภาษีอากรขาดไป จำนวนกว่า 10,532,924.28 บาท

ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม