จับตัวการใหญ่แก๊งคนดำ จัดหาบัญชีม้าทั่วปท. หลอกอื้อเงินหมุนเวียน 1200 ล้าน
กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI จับตัวการใหญ่ แก๊งชาวไนจีเรีย จัดหาบัญชีม้าทั่วประเทศ หลอกลวงผู้เสียหายอื้อ เงินหมุนเวียนกว่า 1,200 ล้าน
กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ขยายผล Operation Black Horse Down จับตัวการใหญ่ แก๊งชาวไนจีเรีย จัดหาบัญชีม้าทั่วประเทศ หลอกลวงผู้เสียหายอื้อ ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
ตามที่กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เปิดปฏิบัติการคดีพิเศษที่ 95/2566 Operation Black Horse Down ล้มบัญชีม้าดำ กรณีชาวไทยร่วมกับชาวต่างชาติสัญชาติไนจีเรีย หลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะโรแมนซ์สแกมหลายราย และจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าจากทั่วประเทศส่งให้กับกลุ่มอาชญากรรมต่าง ๆ
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์
- โรแมนซ์สแกม
- ยาเสพติด
พบเงินหมุนเวียนกว่า 1,200 ล้านบาท และเชื่อมโยงบัญชีม้ากว่า 1,000 บัญชี และร่วมกันยักย้ายเงินออกจากบัญชีม้าส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายของตนเชื่อมโยงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ต่อมา ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย จนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับ สำนักงาน ปปง. และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ จำนวน 5 แห่ง และจับกุมผู้ต้องหาชาวไนจีเรียและชาวไทยได้จำนวน 6 คน
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ สืบสวนขยายผลทราบว่านายคริสเตียน (สงวนนามสกุล) สัญชาติไนจีเรีย
ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ของเครือข่ายดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองฯ จึงได้เดินทางมาอายัดและจับกุมตัว นายคริสเตียนฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4616/2567
ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำตัวไปสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น ๆ ซึ่งจากการข่าวทราบว่ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง และจะบูรณาการร่วมกับสำนักงาน ปปง. ในการสืบสวนเส้นทางการเงินและติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของกลุ่มขบวนการดังกล่าว
กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งเตือนมายังพี่น้องประชาชนว่า การเปิดบัญชีม้าเพื่อให้คนร้ายไปกระทำความผิด ท่านอาจตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อสาธารณะต่าง ๆ ทุกวัน จะปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวสารไม่ได้ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับคดีความผิด
สามารถติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th แบนเนอร์ “ร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส” เพื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมาย
อ้างอิง - กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI