บุกค้น 4 จุด จับบัญชีม้า อ้างถูกหลอก ไม่รู้นำไปใช้ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย

บุกค้น 4 จุด จับบัญชีม้า อ้างถูกหลอก ไม่รู้นำไปใช้ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย

ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการค้น 4 จุด รวบเครือข่ายบัญชีม้า อ้างถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคาร ไม่รู้นำไปใช้ทำธุรกรรมผิดกฎหมาย

วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) ร่วมกันตรวจค้นจำนวน 4 จุด ดังนี้

  1. บริษัทแห่งหนึ่ง บ้านแห่งหนึ่ง แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
  2. บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
  3. บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 6 ตำบลบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
  4. บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

 

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการตรวจค้นบ้านพักอาศัย 4 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ ขบวนการหลอกลวงให้ประชาชน เปิดบัญชีธนาคาร และนำบัญชีธนาคารไปใช้ในการกระทำความผิด เช่น การหลอกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล และการแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลีกเลี่ยงการติดตาม

จากการสืบสวนขยายผลพบว่า ขบวนการหลอกลงทุนได้แบ่งหน้าที่กันทำเป็นขั้นตอน ได้แก่ การจัดหาบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำความผิด การใช้บัญชีธนาคารหลอกลวงประชาชน ตลอดจนการใช้บัญชีธนาคารแลกเปลี่ยนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัลจากกลุ่มคนค้าคริปโทเคอร์เรนซี เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนและติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

การตรวจค้นในครั้งนี้เป็นการสืบสวนเพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารที่ใช้ในขบวนการหลอกลวงดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นบ้านพักอาศัยทั้ง 4 จุด ซึ่งพบผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนในการเปิดบัญชีธนาคาร ดังนี้ 

1. ที่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พบ นายวีรยุทธ ให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารจริง ตามคำชักชวนของ น.ส.วิจิตรา หรือ เปิ้ล มิจฉาชีพที่หลอกให้ไปทำงานที่ปอยเปต โดยเสนอรายได้สูงถึง 20,000 บาทต่อสัปดาห์ โดยให้เปิดบัญชีธนาคารและส่งข้อมูลบัญชีพร้อมรูปถ่ายให้กับมิจฉาชีพ นายวีรยุทธได้เปิดบัญชีตามคำแนะนำโดยไม่ทราบว่าบัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้เขาต้องรับโทษทางกฎหมายร่วมกับกลุ่มมิจฉาชีพ

2. ที่บ้านแห่งหนึ่ง ซอยวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์ ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พบ น.ส.วริยา ให้การยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารจริง แต่ให้การว่าถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารจากการสมัครงานออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยอ้างว่าจะใช้บัญชีดังกล่าวในการรับเงินเดือน หลังจากเปิดบัญชีและส่งข้อมูลให้กับมิจฉาชีพ น.ส.วริยา ก็ถูกบล็อกจากเฟซบุ๊กดังกล่าวและไม่สามารถติดต่อได้อีก ทำให้ไม่ทราบว่าบัญชีของจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดใด

ทั้งนี้จากการตรวจค้น ผู้ที่ถูกพบในที่เกิดเหตุยอมรับว่าได้เปิดบัญชีธนาคารจริง แต่มีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน เช่น บางคนถูกหลอกให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยอ้างว่าต้องใช้บัญชีธนาคารในการรับเงินเดือน บางคนถูกหลอกให้สมัครงานออนไลน์และส่งบัญชีธนาคารไปใช้ในการรับเงินเดือน ซึ่งคำกล่าวอ้างทั้งหมดนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของ น.ส.วิจิตรา หรือ เปิ้ล พบเป็นมิจฉาชีพที่มีหมายจับหลายคดีในข้อหา หลอกลวงและฉ้อโกงผ่านระบบคอมพิวเตอร์ จำนวนหลายหมายจับ และอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตามตัว น.ส.วิจิตรา มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ.  สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง ปวีณวรรณ พลหาญ, ว่าที่ พ.ต.ต.รัฐชิน เจริญรัมย์, พ.ต.ต.ประภาส วังงาม, ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล และว่าที่ พ.ต.ต.หญิงจันทร์เพ็ญ โตสาคร สว.กก.3 บก.ปอศ. พร้อมกำลังข้าราชการตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ดำเนินการ

อ้างอิง/ภาพ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)