บุกจับครู ติวเตอร์ชื่อดังหลอกลงทุน โดน 3 หมายจับแฉกลโกง

บุกจับครู ติวเตอร์ชื่อดังหลอกลงทุน โดน 3 หมายจับแฉกลโกง

ตำรวจบุกจับครู ติวเตอร์ชื่อดังหลอกลงทุน โดน 3 หมายจับแฉกลโกง เปิดโรงเรียนติว อ้างช่วยหาข้อสอบ SAT ให้เด็กติวเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดัง

กรณีตำรวจบุกจับครู ติวเตอร์ชื่อดัง หลอกลงทุน โดน 3 หมายจับแฉกลโกง เปิดโรงเรียนติว อ้างช่วยหาข้อสอบ SAT ให้เด็กติวเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดัง

สืบนครบาล จับกุมนายปวิชญา หรือ ครูติวเตอร์ เจ้าของโรงเรียนติวชื่อดังย่านสีลม ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีหมายจับ 3 หมายจับ ประกอบด้วย

  1. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน“ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
     
  2. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง” ท้องที่ สน.ทองหล่อ
     
  3. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค”

ครูติวเตอร์ชื่อดังหลอกลงทุน เจอ 3 หมายจับแฉกลโกง

พฤติกรรม ก่อเหตุหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติว อีกทั้งอ้างช่วยหาข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing)

และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) เป็นเหตุให้มีผู้ปกครองผู้เสียหายหลงเชื่อ เสียหายกว่า 2 ล้านบาท จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนี ซึ่งตามพฤติการณ์น่าจะมีผู้เสียหายหลายรายหลบเชื่อตกเป็นเหยื่อ

ต่อมา วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายปวิชญา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนหน้าคอนโด หมู่ 8 ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตนเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นศึกษาต่อที่สถานบันการบินพลเรือน แต่เรียนไม่จบ เป็นคนที่มีความรู้ด้านคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี

จึงเริ่มเป็นครูติวเตอร์อิสระตั้งแต่ปี 2537 จนมีประสบการณ์ ต่อมาประมาณปี 2558 ตนมีเงินทุนจึงได้มาเปิดโรงเรียนติวเตอร์เป็นหลักแหล่งอยู่ย่านสีลม ซึ่งธุรกิจเป็นไปด้วยดี

ต่อมาช่วงประมาณปี 2562 สถานการณ์โควิดระบาดทำให้ธุรกิจโรงเรียนติวของตนซบเซาจนต้องปิดตัวลง ทำให้ตนไม่มีส่วนแบ่งให้กับผู้เสียหายซึ่งตนชักชวนมาร่วมลงทุนเปิดโรงเรียนติวด้วยกัน จึงได้หลบหนีไม่กลับที่พัก และตระเวนสอนติวกับเด็กนักเรียนซึ่งผู้ปกครองได้ยินชื่อเสียงจากผู้ปกครองที่เคยส่งบุตรหลานมาเรียนกับตนและผลการเรียนของบุตรหลานสำเร็จ

โดยที่ตนไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เนื่องจากเกรงว่าผู้เสียหายจะทราบ ในส่วนการเรียกรับว่าจะสามารถช่วยให้บุตรหลานของผู้ปกครองที่ตนสอนนั้นสามารถสอบข้อสอบ SAT (Scholastic Assessment Test ) หรือ ข้อสอบวัดระดับความรู้ทางการใช้เหตุผลในวิชาและทักษะด้านการเขียนและการอ่านภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) และวัดระดับความสามารถในการคิดคำนวณ (Mathematics) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพื่อนำเอาคะแนนสอบไปยื่นเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา) นั้น

เดิมทีตนสามารถช่วยได้โดยตนมีแนวข้อสอบซึ่งค่อนข้างตรงเพื่อติวให้กับผู้ที่สนใจ แต่เนื่องจากเหตุขัดข้องตนไม่สามารถหาแนวข้อสอบในลักษณะนั้นมาได้อีก จึงทำให้ผู้ปกครองที่สนใจซึ่งจ่ายเงินมาให้ตนแล้วผิดหวัง และตนก็ไม่สามารถชดใช้เงินคืนได้ จึงถูกดำเนินคดี ก่อนที่ตนจะหลบหนี จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด

ทั้งนี้ ในระหว่างการจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแสดงหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างการเดินทางไปจัดทำบันทึกการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับได้มีการพยายามหว่านล้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลชุดจับกุมช่วยเหลือตนโดยการเสนอที่จะให้เงินจำนวน 1 แสนบาท แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเพื่อแลกกับการปล่อยตัวตนเป็นอิสระ

อีกทั้งยังอ้างรู้จักผู้ใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมก็ไม่ได้สนใจต่อสินบนยั่วยุและบารมีคนใหญ่คนโต คงทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาดีงกล่าวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายตามขั้นตอนโดยเร็ว

จากการตรวจสอบประวัติคดีในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ Crime) พบข้อมูลว่า นายปวิชญา มีประวัติเคยถูกดำเนินคดีในฐานข้อมูล จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย

1) ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ เอกสารราชการ ” ท้องที่ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี  

2) ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.234/2567 ลงวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ โดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ” ท้องที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ

3) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.270/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”  ท้องที่ สน.ทองหล่อ

4) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงพระนครใต้ ที่ 315/2567 (คดีหมายเลขดำ ที่ อ 544/2567 , คดีหมายเลขแดง ที่ อ 1760/2567 ลงวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ” 

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม

อย่าหลงเชื่อกลโกงต่าง ๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ