สรุปปมร้อน "ทนายพัช" ทนายความ "แอม ไซยาไนด์" หลังโดนโทษจำคุก 2 ปี
สรุปปมร้อน "ทนายพัช" ทนายความ "แอม ไซยาไนด์" หลังโดนโทษจำคุก 2 ปี ข้อหาช่วยเหลือจำเลยมิต้องรับโทษและซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
ความคืบหน้า "คดีแอมไซยาไนด์" ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ย. 67) ศาลอาญาพิพากษา "ประหารชีวิต" นางสรารัตน์ หรือ "แอม ไซยาไนด์" (จำเลยที่ 1) วางยาสังหารนางสาวศิริพร หรือ ก้อย พร้อมตัดสินจำคุก 1 ปี 4 เดือน พ.ต.ท.วิฑูรย์ อดีตสามีแอม และอดีตรองผกก.สภ.สวนผึ้ง (จำเลยที่ 2) และนางสาวธันย์นิชา หรือ "ทนายพัช" (จำเลยที่ 3) ทนายความแอมโดนด้วย คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา รวมถึงให้ชดใช้เงินแก่มารดาของก้อยผู้เสียชีวิต จำนวน 2.4 ล้านบาท ในความผิดฐานช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
ย้อนดูประวัติ ทนายพัช ทนายความ แอม ไซยาไนด์ ก่อนถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี
ทนายพัช หรือ นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณรัตน์ อายุ 36 ปี เป็นเจ้าของสำนักงานกฏหมาย ธันย์นิชา ลอว์ เธอเริ่มเป็นที่รู้จักหลังรับเป็นทนายความให้ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาคดีสะเทือนขวัญวางยาฆาตกรรม 14 ศพ โดยก่อนหน้าเธอเคยว่าความคดีฉ้อโกงให้แอมชนะรวดมา 2 คดี และด้วยความมั่นใจในการชี้แจงประเด็นต่าง ๆ แทนลูกความซึ่งก็คือ แอม ในรายการดังโหนกระแส จนทำให้ทนายพัชถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียล
หลังจากนั้นชาวเน็ตก็เริ่มขุดประวัติของทนายพัช และแห่แชร์ภาพที่เจ้าตัวถ่ายเอง กับภาพที่นักข่าวถ่าย จนเกิดเป็นประเด็นที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ตรงปก ทั้งนี้ทนายพัชก็ออกมาตอบโต้ทันทีถึงประเด็นดังกล่าว และเธอยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่าเคยประกวดนางสาวไทย และยังได้รางวัลขวัญใจชาวนา เมื่อปี 2540-2541
ทนายพัช เป็นทนายให้ แอม ไซยาไนด์ ด้วยความมั่นใจว่าลูกความของเธอไม่ได้กระทำความผิดและเป็นคนเดียวที่แอมไว้วางใจ แต่อยู่ ๆ ก็มีเรื่องให้ชาวเน็ตตกใจเมื่อมีข่าวว่าแอมได้เปลี่ยนตัวทนาย ทนายพัชไม่ใช่ทนายความของเธอแล้ว แต่จากนั้นไม่นานแอมก็ได้ตั้งทนายพัชกลับมาทำคดีให้อีกครั้ง
กระทั่งต่อมาตำรวจชุดทำคดีแอมพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องในคดีอีก 1 คน และเตรียมออกหมายจับ หลังพบพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังการจัดส่งกระเป๋าแบรนด์เนมและทรัพย์สินของก้อย เหยื่อในคดีแอม และต่อมาตำรวจได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับทนายพัช ในข้อหาช่วยปกปิดพยานหลักฐาน แต่ศาลอนุมัติเพียงให้เรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทนายพัชก็ได้ปฏิเสธในข้อกล่าวหา กระทั่งวันนี้ (20 พ.ย. 67) ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในความผิดฐานช่วยเหลือจำเลยมิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน