เตือนภัย ซื้อของออนไลน์ หลอกขายทุกอย่าง เหยื่ออื้อ รวบผัวเมียมี 6 หมายจับ
แจ้งเตือนภัย การซื้อของออนไลน์ หลอกขายทุกอย่าง เหยื่ออื้อ ตำรวจตามรวบผัวเมียมี 6 หมายจับ
ระวัง แจ้งเตือนภัย กรณีการซื้อของออนไลน์ หลอกขายทุกอย่าง เหยื่ออื้อ ตำรวจตามรวบผัวเมียมี 6 หมายจับ
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว นางสาวมารินทร์ อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 5 หมายจับ
1. ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 127/2566 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”
2. ตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 147/2565 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง,ฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”
3 .ตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 100/2566 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”
4. ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1441/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”
5. ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.1447/2567 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน”
และจับกุมตัว นายธนวิชญ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 339/2567 ลงวันที่ 5 เมษายน 2567 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน ”
จับกุม บริเวณถนนไม่ทราบชื่อ ม.2 ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์กล่าวคือ นายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ สองผัวเมีย มีพฤติกรรมหลอกขายของออนไลน์ทุกชนิด อาทิเช่น บัตรคอนเสิร์ต เสื้อผ้า กระเป๋า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอีกหลายรายการ มีการแจ้งเตือนในเว็บไซต์ Blacklistseller ทั้งหมดจำนวน 49 รายการ
โดยมีพฤติการณ์คือการลงขายสินค้าตามกลุ่มต่างๆในเฟสบุ๊คในราคาถูก เมื่อมีผู้สนใจเข้ามาสอบถามก็จะพยายามส่งหลักฐานเอกสารต่างๆเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อสินค้า
จนผู้ซื้อสินค้ามั่นใจว่ามีตัวตนแน่นอนและทำการโอนให้ นายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ ก็จะขาดการติดต่อไปทันทีและไม่ได้มีการส่งสินค้าให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้หลงเชื่อและถูกหลอกเป็นจำนวนมาก แม้มูลค่าจะไม่สูงมากนัก แต่เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงต้องรีบสืบสวนติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่านายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ ได้หลบหนีไปอยู่กับแม่ของนายธนวิชญ์ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้นำกำลังไปเฝ้าจุดเพื่อจับกุม นายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์
ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น. พบรถต้องสงสัยที่คาดว่านายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์จะใช้ขับผ่านมา จึงได้เข้าปิดล้อมแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงหมายจับให้นายธนวิชญ์ กับนางสาวมารินทร์ ทราบและแจ้งสิทธิ์ตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุม จากการซักถามนายธนวิชญ์ และ นางสาวมารินทร์ให้การยอมรับแค่บางส่วน โดยบอกว่าเคยทำเองจริงเมื่อในอดีต แต่ปัจจุบันได้มีการขายบัญชีและเฟสบุ๊คของตนเองไปแล้ว และไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าวอีก
ปัจจุบันได้ประกอบอาชีพขายผลไม้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อแต่อย่างใด จะได้ทำการขยายผลต่อไป จากนั้นได้นำตัวนำตัว นางสาวมารินทร์ ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ และนำตัวนายธนวิชญ์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ถือเป็นภัยสังคม หลอกประชาชนเป็นจำนวนมาก ต้องรีบดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด และขอฝากเตือนประชาชน ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะการทำธุรกรรมออนไลน์ หรือช็อปปิ้งออนไลน์ มักจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวอยู่เสมอ วิธีป้องกัน
- ควรตรวจสอบที่มาที่ไปของเว็บไซต์,
- การตรวจสอบบัญชีต่างๆ ข้อมูลผู้ขายให้ถี่ถ้วน
- หรือแม้กระทั่งการรีวิว ห้ามหลงกลในโปรโมชันล่อใจ เช็กแพ็กเกจ
- เลือกซื้อของจาก Official store หรือแพลตฟอร์มที่ไว้ใจได้
- มีการลงทะเบียนร้านค้าโดยใช้ข้อมูลจริง
- นำเลขที่บัญชีหรือชื่อของผู้ขายไปค้นหาบน Google เพื่อที่จะหาประวัติว่าเคยมีคนโพสต์เกี่ยวกับการฉ้อโกงในการซื้อของหรือไม่
- เก็บหลักฐานการโอนเงินไว้เสมอ
สุดท้ายหากตกเป็นเหยื่อ โทรหาศูนย์ AOC 1441 พร้อมช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โทรทันที เมื่อได้รับความเดือดร้อนจากมิจฉาชีพออนไลน์