เอาไว้ไม่ได้ ลวงรักผ่านเฟซบุ๊ก เด็กหาย-หลอกพาเด็กไปล่วงละเมิด 7 วัน 7 คืน

เอาไว้ไม่ได้ ลวงรักผ่านเฟซบุ๊ก เด็กหาย-หลอกพาเด็กไปล่วงละเมิด 7 วัน 7 คืน

สะเทือนใจพ่อแม่ผู้ปกครอง เอาไว้ไม่ได้ ลวงรักผ่านเฟซบุ๊ก เด็กหาย หลอกพาเด็กไปล่วงละเมิด 7 วัน 7 คืน ระวังภัยลูกหลาน ฟีลแฟนกลภัยร้ายบนโลกโซเชียล

เตือนภัยสังคม สะเทือนใจพ่อแม่ผู้ปกครอง เอาไว้ไม่ได้ ลวงรักผ่านเฟซบุ๊ก หลอกพาเด็ก ไปล่วงละเมิด 7 วัน 7 คืน เด็กหายระวังภัยลูกหลาน ฟีลแฟนกลภัยร้ายบนโลกโซเชียล

กรณีเด็กสาววัย 13 หายตัวออกไปจากบ้านกว่า 7 วัน 7 คืน ก่อนที่แม่จะตามไปพบในสภาพที่เรียกว่าดูไม่ได้ อุทาหรณ์สอนใจ เตือนภัยให้เหล่าผู้ปกครองดูแลบุตรหลานท่านให้ดี

เมื่อวันที่  28 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมตัว นายวิรัช หรือ ตอง อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ จ.979/2567 ลงวันที่ 5 พ.ย. 67  

ข้อหา “พรากเด็กและพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”

จับกุมตัวได้ที่ ริมทะเล ซอยโรงปุ๋ย ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง

ลวงรักผ่านเฟซบุ๊ก เด็กหาย หลอกพาเด็กไปล่วงละเมิด

พฤติการณ์กล่าวดั่งมีดกรีดใจ วินาทีแรกกับภาพเบื้องหน้า ที่ผู้เป็นแม่ได้พบบุตรสาววัย 13 ปี หลังเธอมีปัญหาครอบครัวแล้วหายตัวไปจากบ้านที่ จ.สมุทรปราการ นานกว่า 7 วัน 7 คืน ตลอดสัปดาห์ที่ตามหาจนมาพบเธอที่บ้านของหนุ่มแปลกหน้าวัย 21 ปี ใน จ.ชลบุรี

เด็กสาวสารภาพทั้งน้ำตากับแม่ว่าถูกลวงไปเที่ยวก่อนถูกพาไปปู้ยี่ปู้ยำ แรกเริ่มรู้จักเพียงกับหนุ่มวัย 20 ปี ผ่านทางเฟสบุ๊ค ก่อนสนทนากัน 2 สัปดาห์

กระทั่งน้องหลงรักแล้วถูกชักชวนไปขับรถเล่น น้องเข้าใจว่าจะพาน้องไปขับรถเล่นจริงๆ แต่เดนนรกกลับพาเธอเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูดใน จ.สมุทรปราการ โดยมีเพื่อนอีก 1 คน รออยู่ในห้องพักด้วย

จากนั้นได้ลงมือกระทำชำเราน้อง หลังลงมือก็ยังไม่ปล่อยน้องกลับบ้าน 1 ในคนร้ายได้พาน้องซ้อนรถจักรยานยนต์เกือบ 100 กิโลเมตร ไปยังบ้านแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วลงมือล่วงละเมิดน้องตลอด 7 วัน 7 คืน ตั้งแต่วันที่ 12 – 19 ส.ค. 67

เอาไว้ไม่ได้ ลวงรักผ่านเฟซบุ๊ก เด็กหาย-หลอกพาเด็กไปล่วงละเมิด 7 วัน 7 คืน

ท้ายสุดน้องสามารถติดต่อแม่ได้แล้วมาช่วยพาน้องกลับได้ หลังพาน้องออกมาได้แล้ว แม่ของน้องก็เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเดนนรกทั้ง 2 รายนี้ทันที โดยต่อมาหลังจากที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า 1 ใน คนร้ายผู้ที่เป็นคนพาตัวเด็กผู้เสียหายไปไว้ในบ้านพักใน จ.ชลบุรี และกระทำชำเราตลอดสัปดาห์คือ นายวิรัช (สงวนนามสกุล) หรือตอง ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้หลบหนีหายไป

โดยคดีนี้มารดาของเด็กสาวผู้เสียหายได้ให้เบาะแสและขอความช่วยเหลือมาที่ บก.สส.บช.น. ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ หลังการสืบสวนติดตามมากว่า 2 สัปดาห์

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้เบาะแสว่านายตองหลบหนีไปอยู่ตามแนวชายทะเลในภาคตะวันออก จึงได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนติดตามตัว จนไปพบว่าได้ไปแฝงตัวทำงานอยู่ริมทะเลใน มาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 

หลังนำกำลังไปเฝ้าติดตามกระทั่งวันที่ 28 พ.ย. 67 เวลา 18.30 น. ช่วงเลิกงาน ได้พบกับนายตองเดินขึ้นมาจากทางชายทะเล จึงได้ควบคุมตัวไว้ทันที

ในชั้นจับกุม นายวิรัช หรือตอง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองไม่ทราบว่าเด็กสาวนั้นอายุ 13 ปี ตอนแรกเข้าใจว่าอายุ 17-18 ปี ส่วนที่ล่วงละเมิดเด็กสาวไปนั้นตนไม่ได้กระทำพร้อมเพื่อน แต่กระทำหลังจากที่เพื่อนกระทำเสร็จแล้ว

โดยเพื่อนที่ชื่อกายเป็นคนล่อลวงเด็กสาวมาตนเองไม่เกี่ยว แต่หลังจากเพื่อนพามาที่โรงแรมแล้ว ตนเห็นว่าเด็กสาวมีปัญหากับทางครอบครัวที่บ้าน จึงรับเด็กสาวไปพาข้ามจังหวัดไปอยู่ที่บ้านตนเอง และล่วงละเมิดอีก โดยเด็กสาวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน ก็มีญาตของเด็กสาวมารับ โดยตลอดเวลาที่เด็กสาวอยู่ที่บ้านตนเองไม่ทราบว่าทางครอบครัวของเด็กสาวตามหาอยู่

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ครอบครัวเป็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดของเด็กและเยาวชน เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับเหล่าพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งหลาย เมื่อสถาบันครอบครัวไม่แข็งแรง จะเปิดโอกาสให้บุตรหลานของท่านอาจตกไปอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายได้ และหากบุตรหลานของท่านตกอยู่ในอันตรายลักษณะนี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB

เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และหลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ ดำเนินคดี