ถ่ายทอดสด พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว มาประดิษฐานที่ไทย
ถ่ายทอดสด พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "พระพุทธเจ้า" จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง คนไทย พุทธศาสนิกชน ผู้แสวงบุญ เข้ากราบสักการะ 5 ธ.ค. 67- 14 ก.พ. 68 เป็นสิริมงคลในชีวิต รับปีใหม่ 2568
คนไทย รับชมการถ่ายทอดสด พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า "พระพุทธเจ้า" จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พุทธศาสนิกชน ผู้แสวงบุญ เข้ากราบสักการะได้ตั้งแต่ 5 ธ.ค. 67- 14 ก.พ. 68 เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิต รับปีใหม่ 2568
เชิญชวนประชาชนรับชมการถ่ายทอดสด พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
- ในวันพุธที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ช่องทางการรับชม ถ่ายทอดสด พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีน มาประดิษฐาน ณ สนามหลวง
ประชาชนรับชมได้ทั่วโลก เวลา 16.30 น. ถ่ายทอดสดผ่านทาง
- สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ Live NBT2HD (คลิก)
- รับฟังการถ่ายทอดเสียงได้ทาง : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์
- สื่อออนไลน์ กรมประชาสัมพันธ์ และ NBT Connext
- บรรยายภาคภาษาอังกฤษ : NBT World เอ็นบีที เวิลด์ (คลิก) และ prdee.prd.go.th
- ติดตามชมเทปบันทึกภาพ ได้จาก MCOT ในเวลา 22.05 น.
คนไทย เข้ากราบสักการะพระบรมสารีริกธาตุ 'พระเขี้ยวแก้ว' วันไหน?
ศาสนิกชนชาวไทยและต่างชาติมาร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) พระทันตธาตุศักดิ์สิทธิ์จากวัดหลิงกวง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต ระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 - 20.00 น. ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร โดยมีการจัดเตรียมดอกไม้ โปสการ์ด และน้ำดื่มไว้บริการ
ความเป็นมาของการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากจีน มาประดิษฐานที่กรุงเทพฯ
รัฐบาลไทยและรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเห็นชอบร่วมกันให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานครเป็นการชั่วคราว
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสการครบรอบ 50 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - จีน ในปี 2568
ไทยเคยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาครั้งแรกเมื่อปี 2545
รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้เคยอนุญาตให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2545 ณ พุทธมณฑล ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รวมทั้งเคยถูกอัญเชิญไปประดิษฐานยังประเทศต่าง ๆ รวม 6 ครั้ง โดยถือเป็นเหตุการณ์สำคัญอันเป็นสิริมงคลยิ่งต่อพุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและชาวจีน
วัดหลิงกวง ศูนย์กลางแห่งศรัทธาในกรุงปักกิ่ง ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) สัญลักษณ์แห่งปัญญาและแรงบันดาลใจบนเส้นทางธรรม
วัดหลิงกวง ตั้งอยู่บนเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาด้านตะวันตกของกรุงปักกิ่ง มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระเขี้ยวแก้วของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เป็นหนึ่งในสถานที่แสวงบุญสำคัญของพุทธศาสนิกชนทั้งในจีนและจากต่างประเทศ ในปี ค.ศ. 1983 วัดหลิงกวงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดพุทธสำคัญในพื้นที่วัฒนธรรมจีนฮั่นโดยคณะรัฐมนตรีจีน ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของคณะสงฆ์ซึ่งพุทธสมาคมจีนมอบหมายแต่งตั้ง
พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ที่วัดหลิงกวง ประดิษฐานอยู่ภายในพระสถูปทองคำประดับอัญมณี องค์พระเขี้ยวแก้วมีขนาดยาวประมาณ 1 นิ้ว
เชื่อกันว่าบุคคลต่าง ๆ มองเห็นองค์พระเขี้ยวแก้ว มีสีต่างกันไป บ้างเห็นเป็นสีขาวล้วน บ้างเห็นเป็นสีทอง บ้างเห็นเป็นสีขาวหม่น ซึ่งเป็นไปตามกรรม ที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล
แม้องค์พระบรมสารีริกธาตุจะมิใช่สภาวธรรมที่เป็นแก่นของพระพุทธศาสนาแต่ก็เป็นเครื่องชี้ทางและสะพานให้พุทธศาสนิกชนเดินหน้าไปสู่เป้าหมายปลายทางของพระพุทธศาสนาได้ เป็นสัญลักษณ์แห่งพระปัญญาตรัสรู้แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อ้างอิง-ภาพ : พระลาน