ฝนใต้มาเพิ่มแน่ 12-16 ธ.ค.67 ศปช. สั่งช่วยเหลือทันที หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ฝนใต้มาเพิ่มแน่ 12-16 ธ.ค.67 ศปช. สั่งช่วยเหลือทันที หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ "น้ำท่วมภาคใต้" อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงวันที่ 12-16 ธ.ค.67 “ฝนใต้มาเพิ่มแน่” สั่งทุกหน่วย สแตนบาย ป้องกันและช่วยเหลือทันทีหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ (น้ำท่วม ภาคใต้) ในช่วงวันที่ 12-16 ธ.ค.67 “ฝนใต้” มาเพิ่มแน่ สั่งทุกหน่วย สแตนบาย กำลังพล เครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมป้องกันและช่วยเหลือทันทีหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน 

นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เน้นย้ำให้ติดตามความคืบหน้า สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดที่ยังมีน้ำท่วมขัง ที่จ.นครศรีธรรมราช สงขลาและปัตตานี 

ปภ.ได้ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกล สูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประสบภัย พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายของอาคารบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรในพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว จะได้เยียวยาผู้ประสบภัยตามระเบียบราชการต่อไป ล่าสุดได้สั่งการทุกหน่วยเตรียมพร้อมแผนรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากอีกระลอกในพื้นที่น้ำท่วมเดิม ที่จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี , นครศรีธรรมราช , สงขลา , พัทลุง , นราธิวาส , ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 12-16 ธันวาคม 2567 

 

ฝนใต้มาเพิ่มแน่ 12-16 ธ.ค.67 ศปช. สั่งช่วยเหลือทันที หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

“ผอ.ศปช.ย้ำทุกหน่วย สแตนบาย เครื่องจักรเครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อพร้อมรับมือฝนตกหนักในช่วงสุดสัปดาห์นี้  เบื้องต้นได้รับรายงานว่า ศูนย์ ปภ.เขต 11 สุราษฎร์ธานี เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย ทั้งเครื่องสูบน้ำ , เรือท้องแบน , รถบรรทุก , รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รวมจำนวน 31 หน่วย ในพื้นที่รับผิดชอบจ.ชุมพร พัทลุง นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี 

นอกจากนี้หน่วยงานอื่นก็พร้อมสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์ด้วย เพื่อให้พร้อมปฏิบัติงานได้ทันที รวมทั้งเตรียมศูนย์พักพิง/ศูนย์อพยพ เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและจะได้ช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ขอให้มั่นใจรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตโดยเร็ว” นางสาวศศิกานต์ กล่าว
 

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ฝนที่จะตกเพิ่มทางภาคใต้ ต้องเฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมาก โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำบางลาง ปัจจุบันมีความจุ 82 % (1,199 ล้าน ลบ.ม.) ระบายน้ำวันละ 18 ล้าน ลบ.ม. ส่วนจะยังคงการระบายหรือปรับเพิ่ม จะมีความชัดเจนวันพรุ่งนี้(9 ธ.ค.) 

ทั้งนี้ เขื่อนบางลางมีความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำปัตตานีตลอดสายที่แม่น้ำจะไหลผ่าน ตั้งแต่ อ.บันนังสตา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา , อ.ยะรัง และ อ.เมืองปัตตานี จ.ปัตตานี  ซึ่งขณะนี้ที่สถานี X275 อ.เมืองปัตตานี ยังเป็นพื้นที่เดียวที่ยังมีน้ำสูงกว่าตลิ่งประมาณ 50 ซม. ฝนที่จะตกเพิ่มตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.เป็นต้นไป คาดระดับน้ำจะเพิ่มอีกประมาณ 15 ซม.ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ