แฉ! ขบวนการสวมรอย ช่วยตามหาคนหายรถหาย กลหลอกโอนเงิน

กรณีขบวนการสวมรอยช่วยตามหาคนหาย รถหาย กลหลอกโอนเงิน สุดท้ายหายทั้งรถหายทั้งคน เตือนภัยรู้ทันมิจฉาชีพ

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุมตัว นายทินภัทร์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 765/2567 ลงวันที่ 25 กันยายน 2567

ฐานความผิด นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมื่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาและฉ้อโกงทรัพย์ หรือเป็นผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนเองหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน

ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะน่าไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด

 

พฤติการณ์แห่งการจับกุม เมื่อประมาณ เดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางผู้เสียหายได้โพสต์เฟสบุ๊คแจ้งตามหาคน และได้มีบุคคลที่ไม่รู้จักทักมาทางเฟสบุ๊ค โดยใช้เฟสฯ ชื่อ สมัคร และแจ้งว่าสามารถติดต่อกับทางคนที่เราตามหาได้ และได้แจ้งว่าบุคคลที่ผู้เสียหายตามหาได้นำรถยนต์มาฝากไว้กับทางคนร้ายจำนวน 2 คัน ถ้าอยากจะเจอตัวคนที่ผู้เสียหายตามหา ให้นำเงินจำนวน 70,000 บาท มาให้กับคนร้ายและจะนำรถยนต์ 2 คัน มาให้กับผู้เสียหาย

และได้แจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทหารไทยธนชาติ ชื่อบัญชี นายทินภัทร์(ผู้ถูกจับ) ผู้เสียหายหลงเชื่อเเละโอนเงินไปให้ตามจำนวนดังกล่าวรวม 70,000 บาท โดยทำการโอน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 จำนวน 40,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 30,000 บาท

เมื่อโอนเงินเรียบร้อยแล้วไม่สามารถติดต่อปลายทางได้ในทุกช่องทางที่ให้ไว้ จึงได้มาพบพนักงานตำรวจเพื่อดำเนินการต่อไป

จนวันที่ 10 ธ.ค.67 เวลา 14.20 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ให้สายลับ สืบหาข่าวทางโลกออนไลน์ จนได้ทราบว่าผู้ต้องหาเป็นช่างรับเหมาเดินระบบไฟฟ้าภายในอาคารทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปสืบสวน จนกระทั่ง พบตัวผู้ต้องหา และเข้าจับกุม

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกจับกุมและนำผู้ต้องหาส่ง สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนภัยว่าเหล่ามิจฉาชีพมีกลโกงมากมายที่พร้อมจะทำให้สูญเสียเงินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกยุคออนไลน์ที่ทำให้การทำงานของมิจฉาชีพง่ายยิ่งขึ้นไปอีก

วิธีป้องกันและรับมือกับกลโกงมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์

1. ก่อนรับโทรศัพท์ อ่านข้อความ หรือติดต่อกับใครให้เรามีสติอยู่กับเนื้อกับตัวเสมอ
2. ตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
3. ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว ไม่ควรกดลิงก์แปลก ๆ ที่ส่งมาทางไลน์ เฟสบุ๊ค หรือ SMS
4. หากมีคนแปลกหน้าขอให้โอนเงินให้ หรือขอให้ทำธุรกรรมการเงินใด ๆ ให้ไม่ควรทำเด็ดขาด
5. หากตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ไม่ต้องอาย ให้รีบแจ้งที่เบอร์ 1441

ทั้งนี้ จากนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จเรตำรวจฯ ,พล.ต.ท.สยาม บุญสม รรท.ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย กก.สส.3 บก.สส.บช.น. สืบสวนพบผู้กระทำผิดเปิดบัญชีม้า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย