จับสาวแสบนนทบุรีลักทรัพย์กลางคืน มอมเหล้าเหยื่อเมาหลับแอบฉกเงิน

จับสาวแสบนนทบุรีลักทรัพย์กลางคืน มอมเหล้าเหยื่อเมาหลับแอบฉกเงิน

สืบนครบาล จับกุมสาวแสบนนทบุรี ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน อาศัยจังหวะมอมเหล้าผู้เสียหายเมาหลับ แอบฉกเอาเงินไป

กรณีตำรวจสืบนครบาล จับกุมสาวแสบ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน อาศัยจังหวะผู้เสียหายเมาหลับ แอบฉกเอาเงินไป 

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้จับกุมตัว นางสาวชนาภา อายุ 24 ปี บุคคลตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1615/2567 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2567 (สน.ลำหิน) ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” จับกุม บริเวณภายในวัดศรีเขตนันทาราม ตำบลคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 ผู้เสียหายได้นั่งรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซ (เบาะข้างคนขับ) ซึ่งเป็นรถของผู้เสียหาย โดยมีน.ส.ชนาภา เป็นคนขับและมีผู้หญิงอีก 2 คน นั่งเบาะหลังและได้ขับรถออกจากร้านค้าและเดินทางไปร้านค้าถนนร่มเกล้าฯ

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 04.00 น. ผู้เสียหายได้นั่งรถยนต์ คันดังกล่าวออกจากร้านเพื่อมาส่งเพื่อนแถวคลองสิบ แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กรุงเทพฯและหลังจากนั้นได้ไปส่งเพื่อนแถวโลตัสหนองจอก และจอดรถยนต์(ติดเครื่องอยู่ทิ้งเอาไว้ที่โลตัสหนองจอก ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 07.30 น. ผู้เสียหายตื่นมาพบว่ากุญแจรถยนต์ได้หายไปและเงินสดที่เก็บไว้ในกระเป๋าสะพาย สีขาว-ดำ ได้หายไป จำนวน 17,700 บาท

ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 12.30 น. ได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.ชนาภาฯว่าให้เอากุญแจรถยนต์มาคืน จึงนั่งแท็กซี่ไปหาน.ส.ชนาภาฯ น.ส.ชนาภาฯก็ได้ยื่นกุญแจรถยนต์ คันดังกล่าวให้ หลังจากนั้นผู้เสียหายกับน.ส.ขนาภาฯก็ได้นั่งรถแท็กซี่ มาที่ ซ.มิตรไมตรี 20 แขวงคู้ฝั่งเหนือ เขตหนองจอก กรุงเทพฯ เมื่อมาถึงห้องเช่าแล้ว ก็เลยถาม น.ส.ชนาภาฯว่าตกลงคุณเอาเงินผมไปใช่มั้ย น.ส.ชนาภาฯ ยอมรับว่าเป็นคนลักเอาเงินสด จำนวน 17,700 บาทไป โดยสัญญาว่าจะนำเงินมาคืน ในวันที่ 30 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 09.00 น.แต่พอถึงเวลา น.ส.ชนาภาฯก็ไม่นำมาคืน จึงได้รับความเสียหายจึงมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

คำให้การของผู้ต้องหา ให้การว่าผู้เสียหาย มาจีบตนและนัดตนไปดื่มสุราที่ร้านเหล้า ก่อนเกิดเหตุโดยตนได้ชวนรุ่นน้องผู้หญิงอีกสองคนมาด้วย ตนรู้สึกว่าจะมอมเหล้าตน ตนจึงมอมเหล้ากลับจนผู้เสียหายเมาจนไม่ได้สติ ส่วนเรื่องเงินจำนวน 17,700 บาทนั้น ตนยอมรับว่ามีการ ลักทรัพย์นั้นจริงแต่ตนไม่ได้เป็นคนลักแต่เป็นเพียงรุ่นน้องของตนเป็นคนลักทรัพย์นั่นเอง ตนยังสงสัยว่าทำไมตนโดนจับเพียงคนเดียวและรุ่นน้องคนดังกล่าวไม่โดนจับด้วย

ส่วนกุญแจรถยนต์นั้นตนไม่มีเจตนาที่จะลักเอาไปเพียงแต่ลืมคืนกุญแจให้กับผู้เสียหายเท่านั้น จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.ลำหิน ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ขอฝากเตือนนักดื่มยามราตรี เรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือเรื่องการดื่ม เราต้องมีสติ เราต้องกลับบ้าน เราต้องไม่เป็นภาระใคร

บางท่านไม่มีสติ เมาหมดสติ อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ สิ่งที่ควรทำ ดื่มเท่าที่ไหว ถ้าเริ่มรู้สึกว่าสติเริ่มไป ให้หยุด สิ่งที่ควรทำอีกอย่างคือ เมาไม่ขับไม่ขี่ และต้องกลับกับคนที่ไว้ใจได้ ถ้ากลับคนเดียวต้องส่งข้อมูลมาให้เพื่อนทุกครั้ง และสุดท้ายหากท่านมีภัยเหตุร้ายเหตุด่วน รีบโทรแจ้ง 191